วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อานิสงส์หลังน้ำท่วมลด 5 ธุรกิจรวยอู้ฟู่

จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายกินพื้นที่หลายจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครในพื้นที่อยู่อาศัย ย่านธุรกิจร้านค้า และธุรกิจ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมของภาคอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบอย่างหนักกันอย่างถ้วนหน้า
     
      ท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ กลับเป็นโอกาสทองของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับที่อยู่และของใช้ดำรงชีวิตประจำวันประจำในบ้าน จากการรวบรวมของผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ พบว่า ที่โดดเด่น มี 5 ธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ผลิตและจำหน่าย รวมทั้งธุรกิจบริการซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้องกับบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที เป็นต้น
     
      1.วัสดุก่อสร้างรวยเละ
      ความต้องการพุ่งปรี๊ด
     
      จัดเป็นธุรกิจแรกที่น่าจะได้รับอานิสงส์ หลังจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว โดย ณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร ผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากประชาชนจะต้องซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ทำให้ความต้องการวัดสุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะปรกติ
     
      โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง ที่น้ำท่วมขังจะทำให้กระเบื้องปูพื้น หรือปาร์เกต์ร่อน รวมถึงสี สายไฟ เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความเสียหาย จึงต้องซ่อมแซมใหม่ ส่วนสาขาที่คาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น ได้แก่ สาขาลพบุรี และสาขาพระนครศรีอยุธยา เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานาน 2-3 เดือน
     
      “เมื่อปีก่อนที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยอดขายในช่วงนั้นลดลงมาก แต่หลังจากที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติ ประชาชนกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมบ้านจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% และคาดว่าเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เริ่มคลี่คลายลง ยอดขายวัสดุอุปกรณ์ จะเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา คือประชาชนจะกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้โฮมโปรมียอดขายเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าที่หายไปในช่วงก่อนน้ำท่วมณัฏฐ์กล่าว
     
      ขณะที่ โฮมเวิร์ค ซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท บุญถาวร และสุขภัณฑ์ รวมถึงอีเกีย ผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านวัสดุก่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งครบวงจรที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงนี้ก็จะได้รับผลดีหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เพราะเป็นผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเช่นเดียวกับโฮมโปร
     
      สำหรับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน ทั้งผู้รับเหมารายใหญ่ และรายย่อย โดยผู้รับเหมารายใหญ่จะมีงานก่อสร้างและซ่อมแซมถนน คู คลอง ส่วนผู้รับเหมารายย่อย รวมถึงช่างปูน ช่างไม้ ช่างสี ช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์ จะมีงานซ่อมแซมมากขึ้น เพราะได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม
     
      นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจัดสวน ธุรกิจขายต้นไม้ งานตกแต่ง แลนด์สเคป ภูมิสถาปัตย์ วิศกรจะมีงานเข้ามามากมาย เพราะน้ำท่วมทำให้สวนเสียหายด้วยเช่นกัน
     
      ส่วนภาคธุรกิจบริการอย่างบริษัทรักษาความสะอาดจะได้รับผลดีด้วย เพราะจะมีการจ้างพนักงานทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านเรือน รวมถึงออฟฟิศด้วย
     
      2.เครื่องใช้ไฟฟ้า
      ซื้อใหม่-บริการซ่อม
     
      สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสินค้าปัจจัยที่ 5 จำเป็นแก่การใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติดังกล่าว คาดว่าหลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า วิทยุ เป็นต้น ผู้บริโภคที่ประสบอุทกภัยหลายรายที่ไม่สามารถขนย้ายสินค้าดังกล่าวได้ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดที่มีน้ำท่วม โดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดปัจจุบันมีผู้ผลิตและจำหน่ายจากค่ายเกาหลี และญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์เกาหลี อย่างซัมซุง และแอลจี เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
     
      นอกจากนี้ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นธุรกิจที่มีความต้องการไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างนัก ธุรกิจบริการซ่อมตรวจเช็คและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น
     
      โดยผู้บริหารของค่ายซิงเกอร์ จำกัด (มหาชน) บุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ ให้ความเห็นว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วและมาแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งซิงเกอร์ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งในแง่ของกำลังซื้อจากลูกค้าและพนักงานขายในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ บริษัทจึงได้แก้วิกฤตโดยการตั้งทีมซ่อมตรวจเช็กและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการรับสมัครและเพิ่มทีมช่างกว่า 300 นาย สำหรับรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ทุกประเภทสินค้า
     
      เนื่องจากซิงเกอร์มีความแข็งแกร่งและได้รับการ ยอมรับในเรื่องของบริการหลังการขายในกลุ่มสินค้าซิงเกอร์อยู่แล้วและการขยาย ธุรกิจรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่ายดังกล่าวจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าและ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและรับรู้ในกว้างขึ้น สอดคล้องกับสภาพตลาดหลังน้ำลด ซึ่งจะมีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการตรวจสภาพและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ น้ำท่วม
     
      “กลุ่มลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเรียกซ่อมได้ที่ไหน หรือการรอทีมช่างของแต่ละค่ายสินค้าอาจมีความล่าช้าและรอนาน การบริการหลังการขายและซ่อมสินค้าเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเรา บวกกับทีมช่างที่เชี่ยวชาญ เรามั่นใจว่าไม่มีแบรนด์ไหนครบและพร้อมเท่าเรา ซึ่งการตั้งเป็นทีมที่ชัดเจนและมีทีมช่างจำนวนมาก ตรงนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีบุญยงกล่าว
     
      ทั้งนี้ ซิงเกอร์ได้นำร่องนำทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วขึ้นมา 10 ทีม เพื่อเตรียมไปตรวจสอบและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงเข้ามาเสริมและทดแทนกลุ่ม สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าร้านค้าโชห่วยเนื่องจากการลง พื้นที่และใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของชุมชนตามหมู่บ้านที่มีร้านค้าโชห่วยมากขึ้น ซึ่งแต่ละร้านอยากจะตกแต่งและวางสินค้าให้ทันสมัยเหมือนร้านคอนวีเนียนสโตร์ ในเมือง
     
      อย่างไรก็ตาม คีย์แมนซิงเกอร์ยอมรับว่ากังวลเรื่องน้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบในกลุ่มลูกค้า ซึ่งล่าสุดมีประมาณ 5,000 บัญชี ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.4 แสนบัญชีควบคู่กับการปรับแผนเรียกเก็บค่างวดสินค้าเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 500 บาทต่อเดือน ในบัญชีลูกค้าที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ชดเชยกับที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่างวดสินค้าได้ในขณะนี้
     
      3.ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า
      จัดหนักลดแลกแจกแถม
     
      อีกธุรกิจหนึ่งที่คงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อในยามที่วิกฤติน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว นั่นคือ ธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเพาเวอร์บายในเครือเซ็นทรัล และเพาเวอร์มอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ ที่ออกโรงย้ำชัด หลังน้ำลดเตรียมออกแคมเปญลดแลกแจกแถม เพื่อเร่งขายสินค้าในช่วงปลายปี พร้อมช่วยผู้บริโภคซื้อสินค้าในราคาประหยัด หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยบรรเทาทุกข์
     
      สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เชื่อว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายได้เร็ว และธุรกิจยังคงมีความหวังในยอดขายปลายเดือนธันวาคม คาบเกี่ยวถึงมกราคมที่เป็นหน้าขายสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากซื้อเป็นของขวัญให้กันและกันแล้วในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ยังมั่นใจว่าหลังสถานการณ์น้ำลดจะส่งผลดีต่อไตรมาส 1 ปีหน้าเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าจำเป็นในบ้าน
     
      “เราได้เตรียมความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้หลายทาง ทางตรงคือการลงพื้นที่ช่วยเหลือ ขณะนี้ได้พูดคุยกับทางซัปพลายเออร์แบรนด์สินค้าและสถาบันการเงินเพื่อหาแคมเปญพิเศษออกมา จะเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายบริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้า ทั้งในส่วนของดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และสินค้าใหม่ที่เราเตรียมไว้เพื่อเข้ามาช่วยเร่งยอดขาย อาทิเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น
     
      ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่ม ฯลฯ เฉพาะกระแสความตื่นตระหนกคนกรุงเทพฯก็ทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 ของค่ายต่างๆ พุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% บรรดาผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ก็เตรียมรับมือ ทั้งเพิ่มกำลังการผลิตและสต๊อกสินค้าไว้หลังจากน้ำลด
     
      นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังได้ลดยกแผนกทั้งเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และแกดเจ็ตสุดล้ำ พิเศษช็อปผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ รับบัตรกำนัลส่วนลดเพิ่ม เงินคืนสูงสุด 25%และผ่อน 0% นาน 20 เดือน พร้อมรับคืนสูงสุด 10% กับ Citi M Visa และCitibank พิเศษสุดเฉพาะสมาชิก M Card รับสิทธิพิเศษสูงสุด 12% ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์
     
      4.จำหน่ายอุปกรณ์ไอที
     
      แน่นอนว่าอีกหนึ่งตลาดที่จะมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างมากในช่วงหลังน้ำลด คือ ตลาดสินค้าไอที เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันอุปกรณ์ไอทีเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป โน้ตบุ๊ก และแท็บเลต
     
      การซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเดิมที่ชำรุด น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยผู้ประกอบการค่ายต่างๆ คงจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการตัดสินใจรวดเร็วขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีการจัดบริการพิเศษซ่อมและลดค่าใช้จ่ายอะไหล่ก็ตาม
     
      ทางด้าน เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด โดย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับกำลังซื้อของตลาดไอทีหลังน้ำลดว่า เอเซอร์มองปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ตลาด ได้แก่ หนึ่ง-คอนซูเมอร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไอทีใช้ภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์พีซี เป็นต้น โดยด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเข้ามาใหม่อาจจะต้องรอถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเป็นลำดับแรก และสอง-กลุ่มองค์กร ตลาดกลุ่มนี้คาดว่าอาจจะเริ่มกลับมาทันที เพราะความต้องการเครื่องทดแทนมีมาก โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบที่มีเป็นจำนวนมาก
     
      “ยังไม่มีการประเมินตัวเลขว่าตลาดคอนซูเมอร์จะหดตัวลงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปกติไตรมาส 4 กำลังซื้อหดยู่แล้วประมาณ 5-10% ดังนั้น จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น จึงน่าจะส่งผลให้ตลาดหดตัวลงมากกว่า 10%”
     
      นิธิพัทธ์บอกว่า แผนการรับมือกำลังซื้อตลาดองค์กร หลังน้ำลดของเอเซอร์ เบื้องต้นได้วางไว้ 2 แนวทาง สำหรับแนวทางแรกได้มีการจัดตั้งรถเคลื่อนที่เข้าไปดูแลซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมทำการซ่อมเครื่องให้เสร็จภายใน 1 วัน ส่วนแนวทางสอง หากเครื่องไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะเป็นการให้ลิสซิ่งในการซื้อเครื่องใหม่เพิ่มขึ้น
     
      ขณะที่ ค่ายโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด นั้น ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศ ส่วนธุรกิจไอที เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ยอดขายของโตชิบาลดลง20-30% เพราะวิกฤติน้ำท่วมสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในพื้นที่หลายจังหวัด เนื่องจากรถส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ได้ ทำให้ยอดขายสินค้าในช่วงนี้ลดลงไป อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 บริษัทยังคาดหวังยอดขายในงานคอมมาร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะพยายามจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย
     
      สำหรับแผนรองรับหลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ทางโตชิบาจะขยายเครดิตในการชำระเงินของดิสทริบิวเตอร์ให้มีเวลานานขึ้น และเตรียมสต็อกสินค้าให้กับร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีสินค้าขายต่อ ไป อีกทั้งในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจะพยายามกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายด้วย การนำเสนอโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม
     
      “แม้จะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แต่บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งยอดขายทั้งปียังวางไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีจะเห็นชัดเจนในช่วงเดือนธันวาคม 2554-มกราคม 2555 ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าไอทีเติบโตเพิ่มขึ้น 10%” ถกล กล่าวปิดท้าย
     
      ขณะที่ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต โดยกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ปฐม อินทโรดม มองว่า หลังน้ำลดจะมีกำลังซื้อก้อนหนึ่งที่อั้นไว้ตั้งแต่ไตรมาส 3 กลับมา แต่อาจไม่ถึง 100%
     
      “ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้เป็นวงกว้าง จึงไม่แน่ใจจะฟื้นเร็ว เพราะกลุ่มอุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ จะเป็นตลาดแรกที่ฟื้นฟูกลับเต็มร้อย จากนั้นจึงเป็นสินค้ากลุ่มไอที โดยคาดว่าอย่างเร็วสุดตลาดรวมไอทีน่าจะฟื้นในไตรมาส 4 อย่างช้าก็ไตรมาส 1 ปีหน้าปฐมกล่าว และหวังว่ากำลังซื้อระยะสั้นที่อั้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 จะกลับมาหลังน้ำลด ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรวมไอที โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้นเพื่อสร้างมั่นใจลูกค้า รวมถึงย้ายวันจัดงานคอมมาร์ตจากปลายเดือนตุลาคม มาเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่มดังกล่าว
     
      ในส่วนของราคาสินค้า เชื่อว่าจะมีการคงราคาหรือปรับลงอย่างมาก รวมถึงอาจจะมีแคมเปญทางการตลาดเพื่อดึงดีมานด์ในช่วงเดือนสุดท้ายอย่างหนัก
     
      การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการจะเกิดขึ้นอย่าง แน่นอน แต่ละรายต้องพยายามที่จะสร้างยอดขายปิดปลายปีให้เข้าเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ ต้นปี จึงน่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจในการ เลือกซื้อสินค้าจากแคมเปญโปรโมชั่นที่จะถูกจัดเต็มและจัดหนักจาก ผู้ประกอบการทุกค่าย
     
      5.จำหน่ายรถยนต์รับอานิสงส์
      รถใหญ่ขายดี-บริการซ่อม
     
      ไม่เพียงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้สำนักงานที่คาดว่าผู้ซื้อจะมีความต้องการอย่างมากหลังวิกฤติน้ำผ่านพ้นไป อีกโปรดักส์หนึ่งสำคัญ นั่นคือ รถยนตร์ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ เพราะรถยนต์หลายคันทั้งเก่าและใหม่ได้รับความเสียหายจมน้ำเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะต้องซื้อหารถยนต์ใหม่ และบางรายที่ใช้รถคันเก่าก็ได้โอกาสเปลี่ยนเป็นคันใหม่
     
      บุรินทร์ โอภาสเศรษฐกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วอลโว่ ทรัคส์ แอนด์ บัส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกวอลโว่ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหลังจากน้ำลด ตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากมีความต้องการรถบรรทุก สำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งการขนส่งสินค้าสาธารณูปโภค อุปกรณ์ก่อสร้างหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ที่เสียหายไป
     
      ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถบรรทุกก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วม เติบโตขึ้นจากปี 2553 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ 16 ตันขึ้นไป ซึ่งคาดว่าปี 2554 จะมียอดขายรวม 1 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 15-20% โดยในส่วนของวอลโว่ ช่วง 8 เดือนแรก มียอดขายที่เติบโต 87% และคาดว่าปีนี้จะทำได้ 500 คัน ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 200 คัน
     
      “การขยายตัวของตลาดมาจากลูกค้าขยายงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี งานเหมือง และขนส่งสินค้าทั่วไป รวมไปถึงการขยายงานไปต่างประเทศอย่างลาว ที่มีทั้งงานเหมือง และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่นอกพื้นที่น้ำท่วม การเติบโตอย่างรวดเร็วของวอลโว่ เนื่องจากมีการวางแผนธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะการเน้นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การเปิดโปรแกรม เซอร์วิส คอนแทร็กต์ ที่ช่วยลูกค้าคิดค่าใช้จ่ายเป็นกิโลเมตร การเป็นค่ายแรกๆ ที่จัดกิจกรรมฝึกทักษะขับขี่ให้แก่พนักงานขับรถของลูกค้า การมีแอ็กชัน เซอร์วิส ที่จะช่วยให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้นบุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
     
      นอกจากธุรกิจจำหน่ายรถยนตร์ทั้งขนาดเล็กและรถใหญ่เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้าหรือผู้ประสบภัยที่มีหลายจังหวัดในประเทศไทย อีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่นิยม ได้แก่ ธุรกิจบริการซ่อมบำรุงรถยนตร์ ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนตร์จากญี่ปุ่นและยุโรปแบรนด์ดังๆ ในธุรกิจ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า เบนซ์ ล้วนมีบริการซ่อมบำรุงให้กับลูกค้ารวมทั้งธุรกิจคาร์ แคร์ ที่คงได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ประสบภัยอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น