แนะเคล็ดลับกู้วิกฤต
ภัยน้ำท่วมสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินทั้งบ้านและรถ แต่สิ่งที่สำคัญหลังจากนั้น คือ การซ่อมบำรุงรักษาสำหรับทรัพยสินที่ถึงแม้ว่าจะจมน้ำ แช่น้ำ และโดนน้ำท่วม หากไม่หนักหนาสาหัสก็จำเป็นต้องตรวจเช็ก งานนี้จึงต้องพึ่งที่ปรึกษา และกูรูทั้งหลายทั้งด้านบ้านและรถยนต์ แนะเคล็ดลับกู้ทรัพย์สินหลังน้ำลดทั้งด้วยตัวเองและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิกที่มีชื่อเสียง “ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์” เจ้าของผลงานเขียนร้อยพันปัญหาในการก่อสร้าง และพิธีกรปกิณกะทางโทรทัศน์ รายการ “หมอบ้าน” และรายการวิทยุ “คุยกับหมอบ้าน” แนะนำเคล็ดลับการฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วมว่า สำหรับการซ่อมแซมพื้นบ้านหลังน้ำท่วม กรณีถ้าพื้นไม่เสียหาย ก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็สามารถใช้ได้ แต่ถ้าเสียหาย มีวิธีแก้ไข คือ กรณีพื้นไม้ปาร์เกต์ จะหลุดล่อนง่ายเมื่อโดนน้ำท่วม เพราะติดกับพื้นคอนกรีตด้วยกาว
วิธีแก้ก็คือ ถ้าแผ่นปาร์เกต์ไม่เสียหายมากก็ผึ่งลมให้แห้งก่อน รวมถึงพื้นคอนกรีตด้วย แล้วจึงทาด้วยกาวลาเท็กซ์ หนา 1-2 มิลลิเมตร ค่อยๆ กดลงไปที่เดิมให้แน่น ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วันจึงใช้งานได้ ถ้าเสียหายมากจะเปลี่ยนใหม่ต้องใช้ไม้ชนิดเดียวกับของเดิม สำหรับพื้นพรมต้องลอกออก แล้วนำไปซักและตากแดดให้แห้งสนิท แล้วจึงนำกลับมาปูใหม่ โดยพื้นคอนกรีตต้องแห้งก่อนเช่นเดียวกัน
สำหรับผนังบ้าน วัสดุต่างๆ ที่ใช้ทำผนังบ้าน เมื่อเวลาถูกน้ำท่วมนานๆ ก็จะเกิดความเสียหายแน่นอน มี วิธีแก้ไข คือ วิธีแรก ถ้าเป็นผนังไม้ เช็ดทำความสะอาด เพื่อให้ผิวสามารถระเหยความชื้นได้ง่าย เมื่อแห้ง ดีแล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชะโลมที่ผิว หรือทาสีต่อไป วิธีที่ดีควรทาสีด้านในบ้านก่อน ทิ้งไว้ 5-6 เดือน จึงทาสีด้านนอก
วิธีที่ 2 ถ้าเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน ก็ใช้วิธีเดียวกับผนังไม้ แต่ต้องทิ้งให้ระเหยความชื้นนานกว่า ผนังไม้ เพราะมีความหนามากกว่า และวิธีที่ 3 ถ้าเป็นผนังยิบซั่มบอร์ด ก็เลาะเอาแผ่นที่เสียออก ถ้าโครงเคร่าเป็นโลหะก็สามารถติดแผ่นใหม่ได้เลย แต่ถ้าโครงเคร่าเป็นไม้ ต้องทิ้งไว้ให้ความชื้นในไม้ระเหยหมดก่อน จึงจะติดแผ่น ใหม่ได้
การซ่อมวอลเปเปอร์หลังน้ำท่วม กรณีฝ้าเพดาน จะมีลักษณะคล้ายๆ การซ่อมผนังและพื้นปนกัน มีวิธีการแก้ไขคือ ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ด หรือกระดาษอัด ถ้าเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำ ก็ควรเลาะ ออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย ทิ้งไว้ให้ทั้งหมดแห้งสนิทจริงๆ แล้วจึงทาสีทับ หากเป็นฝ้าโลหะ ให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อย แล้วจึงทาสีทับเข้าไปใหม่และ ระบบสายไฟส่วนใหญ่ จะเดินในฝ้าเวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูว่าความเรียบร้อยว่า มีส่วนใดชำรุดหรือเปล่าด้วยและถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้ เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับก่อน
การติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่ สำหรับประตู เมื่อถูกน้ำแช่อยู่นานๆ ก็จะบวมขึ้น หรือไม่ก็จะเกิดเป็นสนิม มีวิธีแก้ไขคือ กรณีแรก ประตูไม้ เมื่อโดนแช่น้ำก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้ก็โดยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมาก ก็ควรจะเปลี่ยนเลย และ กรณีที่ 2 ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยอย่าลืมทาสีกันสนิมก่อน แต่อย่าลืมดูรอยต่อต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็กว่า มีน้ำหลงเหลืออยู่เหลือเปล่า ต้องให้แห้งจริงๆ ก่อนจึงจะทาสีได้การซ่อมแซม บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจหลังน้ำท่วม
อุปกรณ์ต่างๆ เช่น บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ ทำด้วยโลหะ เมื่อโดนน้ำท่วมย่อมมี ปัญหาตามมา มีวิธีแก้ไข คือ เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำยาหล่อลื่นชโลมตามจุดรอยต่อและรูต่างๆ ให้ทั่ว และอย่าใช้จาระบี หรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้ จะทำให้ฝังอยู่ข้างใน และจะเป็นปัญหาในภายหลัง หากถ้ายังใช้การไม่ได้ ก็ลองทำตามวิธีที่ว่านี้หลายๆ ครั้ง ถ้ายังมีปัญหาก็ควรจะต้องถอดออก แล้วซื้อมาเปลี่ยนใหม่
สำหรับการทาสีบ้านหลังน้ำท่วม การทาสีบ้านหลังน้ำท่วม ควรจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย ควรที่จะซ่อมแซมส่วนอื่นๆ เสียก่อน ปล่อยให้แห้งสนิทก่อน แล้วจึงทำการแก้ไข เพราะสีทุกชนิดที่ใช้ทาบ้าน เมื่อโดนน้ำท่วมนานๆ ก็จะเกิดการลอกและล่อนออกมาได้ เนื่องจากความชื้นของน้ำ วิธีแก้ไขคือ ต้องขูดสีเดิมที่ลอกและล่อนออก ทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อย ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท ถ้าทำได้ควรจะเป็น 3-6 เดือนเลยยิ่งดี เมื่อแห้งแล้วจึงทาสีรองพื้นชนิดกันเชื้อรา แล้วจึงทาทับด้วยสีจริงอีกอย่างน้อย 2 ครั้งการตรวจสอบระบบประปาหลังน้ำท่วม
คู่มือซ่อมรถหลังน้ำลด
สำหรับรถยนต์ การดูแลรถหลังน้ำท่วม จากข้อมูล auto.sanook.com แนะนำเทคนิคซ่อมรถยนต์น้ำท่วมนั้นนับว่าเป็นเรื่องของอาชีพช่างยนต์กันเสียส่วนใหญ่ ที่งานเข้าหลังจากภัยพิบัติครั้งนี้ แต่เพื่อความสบายใจเราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักว่าอะไรบ้างที่ต้องซ่อมและดูแล หลังเหตุการณ์น้ำท่วมและอะไรบ้างที่สำคัญ
1.ตรวจความเสียหาย ข้อแรกที่สำคัญและต้องทำหลังน้ำลดลงไปจนกลับสู่สภาวะปกตินั้นคือการตรวจสอบความเสียหายของรถ ดูให้หมดทั้งภายในภายนอก เปิดฝากระโปรงเช็คเครื่องให้ครบครัน และถ้ารถคุณมีประกันภัยชั้น 1 ก็อย่าลืมแจ้งประกันด้วย จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อม
2.อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เรามักย้ำเป็นประจำในข้อนี้เกี่ยวกับการดูแลรถหลังน้ำท่วม เนื่องจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แบบสุ่มสี่สุ่มห้านั้นอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะเศษผงต่างที่มากับน้ำสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ได้ อีกประการคือรถที่แช่น้ำนานๆจะมีความชื้นจะสามารถสร้างความเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน
3.ส่งสู่มือช่าง เมื่อตรวจสอบเรียบแล้วก็ได้เวลาที่เราต้องส่งสู่มือช่างผู้ชำนาญการให้ดำเนินการ โดยในการส่งรถที่รักไปซ่อมแซมความเสียหายนั้น ควรรายงานระดับน้ำที่รถคุณไปว่ายน้ำมา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบทางด้านต่างๆของช่าง ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
4.อะไรบ้างที่จะเสีย แน่นอนเราไม่แนะนำให้คุณซ่อมรถน้ำท่วมเอง เพราะคุณจะปวดหัวกับมันอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยก็ควรต้องรู้บ้างว่าอะไรที่จะเสียหายบ้าง เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย กรณี ด้านเครื่องยนต์ ตามปกติแล้วความเสียหายของเครื่องยนต์นั้น จะเกิดขึ้นในระบบ Intake หรือระบบดูดอากาศ ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือ “กรองอากาศ” เพราะขี้ผงจากน้ำนั้นจะเข้าไปติดอยู่ในส่วนนี้เสียมาก ช่างจะต้องถอดหม้อกรองออกมาล้างทำความสะอาดอย่างแน่นอน ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ แต่ถ้าแจ็คพอทก็เจอ น้ำเข้าเครื่อง ก็ต้องมีการถอดประกอบเครื่องยนต์ เพื่อความสะอาด ซึ่ง อาจจะรวมถึงชุด "หัวเทียน" ที่จะเสื่อมสภาพจากสภาวะความชื้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวกเซ็นเซอร์นั้นก็ต้องเช็คตามปกติ
ที่สำคัญต้องได้มีถ่ายของเหลวทุกชนิด ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย อาจจะรวมถึงน้ำยาหม้อน้ำด้วย เพื่อความไม่ประมาท เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าไปทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดความเสียหายได้
กรณีช่วงล่าง น้ำท่วมนั้นสามารถสร้างความเสียหายกับระบบช่วงล่างได้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกลูกยางต่างๆ ที่ฝืดจากการโดนความชื้นในการแช่น้ำเป็นระยะเวลานานๆ ตามปกติแล้ว รถที่โดนน้ำท่วมเป็นเวลานานๆนั้น จำเป็นต้องอัดจาระบีใหม่ เนื่องจากน้ำทำให้จาระบีเก่าเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะการอัดจาระบีเพลาขับ และลูกปืนล้อทั้ง 4 ล้อ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่มีจารบีหล่อยู่อาจจะทำให้ลูกปืนแตก หรือ เพลาขับมีเสียดัง ทำให้เกืดความร้อนสะสม จนนำไปสู่เพลาขับรูด หรือลูกปืนเพลาขับแตก อันตรายมาก โดยเฉพาะรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า
นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบและทำความสะอาดระบบเบรค โดยเฉพาะรถที่ใช้ระบบดิสเบรก อาจจะมีเศษผงเข้าไปติด ทำให้เบรคมีประสิทธิภาพลดลงและอาจจะกินจานเบรคได้ในระยะยาว ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการเปลี่ยนน้ำมันเบรคที่อาจจะมีการเสื่อมประสิทธิภาพด้วย
กรณีระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่แล้วความเสียหายจากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ระบบไฟฟ้าเสียมากกว่า ซึ่งประเด็นสำคัญก็ไม่พ้นการไล่ความชื้นในระบบ ที่จำเป็นต้องให้เป็นหน้าที่ของช่าง แต่ถ้าคุณโชคร้าย ก็อาจจะพบว่า ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ECU ลากลับบ้านเก่า นี่ยังไม่นับกล่องเกียร์ที่มักติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำเช่นกัน
5.ทำความสะอาดภายในได้เวลาลุย เมื่อรถคุณพ้นจากมือช่างเครื่องยนต์มาได้ขับได้เป็นติดสุขแล้ว ก็ให้มาจัดการในเรื่องภายในห้องโดยสารก่อน อย่างที่ได้บอกไปแล้วแต่เริ่มต้นว่าน้ำที่ท่วมนั้น เป็นน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด และยิ่งคุณทิ้งไว้นานก็ยิ่งจะทำให้มีกลิ่นอับ ดังนั้นขั้นแรก คุณต้องอาศัยคาร์แคร์ต่างๆ ในการถอดพรม-ซักเบาะ และทุกอย่างให้เอี่ยมอ่อง
หลังจากนั้นก็ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกลิ่นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ถือโอกาสล้างตู้แอร์ก็จะเป็นการดีใช่น้อย โดยเฉพาะถือโอกาสนี้เปลี่ยนน้ำยาแอร์เผื่อน้ำอาจจะซึมเข้าระบบ และที่สำคัญรถบางคันนั้นมีกรองแอร์อันนี้ต้องเปลี่ยนสถานเดียว เพราะส่วนใหญ่ เมื่อโดนน้ำแล้วกลิ่นจะติดครับ
6.สนิมภัยร้ายที่รอวันย่างกราย เราอาจจะเสร็จเรื่องเครื่องและภายในห้องโดยสารกันไปเรียบร้อย แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่องของตัวถังด้วย โดยเฉพาะรถใครที่มีบาดแผลจากการชนก่อนน้ำท่วม อันนี้พึงระวังให้ดี เพราะสนิมนั้นจะถามหาอย่างไม่ต้องสงสัย หลังน้ำท่วมทางที่ดี แวะไปทำสีในจุดที่เกิดการชนก็ดีใช่น้อย เพราะจุดนั้นอาจจะเป็นสนิม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการผุและเสียหายได้ในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ ด้วยการดูแล 6 ขั้นตอนที่ควรทำจากเราก็น่าจะทำให้รถของเพื่อนๆ กลับมาเหมือนเดิมไม่มากก้น้อย แต่ข้อสำคัญนั้นคือเวลา และทุนรอน บางทีค่อยๆ ทำ ทำสิ่งที่สำคัญก่อนก็จะช่วยให้รถอยู่คู่คุณไปอีกนาน
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
แบงก์ฝ่าวิกฤติน้ำท่วม
หั่นดอกเบี้ย - ช่วยลูกบ้าน
ไม่เพียงแต่ 9 แบงก์รัฐนำทัพ โดยแบงก์ออมสิน-กรุงไทย-ธ.ก.ส. ที่แห่ระดมกันมาช่วยลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย แต่แบงก์พาณิชย์ทั้งใหญ่และเล็กทั้งแบงก์กรุงเทพ-ทหารไทย-ไทยพาณิชย์ ต่างพาเหรดคลอดแพกเกจกันอย่างคึกคัก ในรูปแบบทั้งพักหนี้-ลดดอกเบี้ย-อัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนอุ้มลูกหนี้ฝ่าวิกฤตน้ำท่วม
แม้วิกฤตน้ำท่วมยังไม่ทีทีว่าจะลดลงอย่างเร็ววันนี้ แต่หน่วยงานของรัฐกระทรวงการคลัง เดินหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 ซึ่งปัจจุบันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 กระทรวงการคลังได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ไม่ว่า จะเป็น มาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่
หนึ่ง - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำหนดเกณฑ์ กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ โดย ธ.ก.ส.รับภาระเอง อีกทั้งขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้เดิมเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และงดคิดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท และลดดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราปกติที่ ธ.ก.ส.เรียกเก็บจากลูกค้าลงร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยติดต่อสายด่วน 02 2800180 ต่อ 2352
สอง - ธนาคารออมสิน ในด้านสินเชื่อเคหะ แบบที่หนึ่ง-ให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย หรือพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 6 เดือน แบบที่สอง-ปรับลดเงินงวด และ/หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการให้สินเชื่อเคหะของธนาคาร (ไม่เกิน 30 ปี) โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1115
แบบที่สาม - ให้กู้เพิ่มเพื่อเป็นเงินกู้กรณีฉุกเฉินรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 ร้อยละ 3.25 ต่อปี ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี และแบบที่สี่- เงินกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิมรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์เดิม สำหรับประชาชนทั่วไปไม่เกินรายละ 300,000 บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับร้อยละ 3.25 ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี
ส่วนสินเชื่อธุรกิจและ SMEs ก็ยังมีให้ พักชำระหนี้เงินต้น โดยผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน รวมทั้ง ขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เดิมได้ไม่เกิน 1 ปีและ ให้กู้เพิ่มรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับร้อยละ MLR-1.50 ต่อปี ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี
สาม - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สายด่วน 02 6459000 กำหนดให้ วงเงินให้กู้สำหรับลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่เพื่อปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคารไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร/ค่าซ่อมแซมอาคาร ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยแบ่งเป็น
สี่ - ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กำหนดวงเงินกู้เพื่อปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 6 ปี และระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 2 ปีรวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ร้อยละ 8 ต่อปีตลอดอายุสัญญา โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ดังนั้นผู้ประกอบการจะจ่ายจริงที่ร้อยละ 6 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ที่สำคัญ ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1357
ห้า - ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีการโครงการยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพ ในรูปแบบแรก-ผ่อนปรนการชำระหนี้ ทั้งส่วนเงินต้นและกำไร เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเดือนที่ 4-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไร โดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิมร้อยละ 1 หลังจากนั้นคิดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม หรือชำระเฉพาะส่วนกำไรเป็นระยะเวลา 12 เดือน เดือนที่ 13-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไรตามสัญญาเดิม โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1302
ในรูปแบบ ให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติมที่อยู่อาศัย และ/หรือสถานประกอบธุรกิจ ที่ได้รับความเสียหายตามความจำเป็น ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม/หลักประกันอื่นเพิ่มเติม และให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับใช้หมุนเวียนในธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากการได้รับผลกระทบทางอ้อม ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม และมี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 7 ปีสำหรับสินเชื่ออเนกประสงค์ และไม่เกิน 30 ปีสำหรับสินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมที่อยู่อาศัย
หก - ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ได้มีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออก ในลักษณะขยายระยะเวลาการรับชำระหนี้ หรือการต่อตั๋วเกินเทอมและปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการนำเข้า ในรูปแบบ ขยายระยะเวลาการกู้ Trust Receipt และปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2271-2929
เจ็ด - บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก็ได้มีการกำหนดพักการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้า บสย. ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยปี 2554 และถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง 31 มีนาคม 2555 และ ให้ความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ในการผ่อนปรนเรื่องการพักชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวมทั้งการปรับ โครงสร้างหนี้เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2302-2741 ต่อ 157
แปด - บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) มีการกำหนดให้พักชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน แ ละ ปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปรวมไม่เกิน 30 ปี พร้อมทั้ง ในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะขอกู้เพิ่มเพื่อนำเงินไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย บตท. จะเป็นผู้ประสานกับสถาบันการเงินเพื่อให้กู้เพิ่มต่อไป โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2618-9933
เก้า - ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. กรุงไทย) ในรูปแบบ เงินกู้กรุงไทยสู้อุทกภัย ให้วงเงินกู้ประจำ (T/L) ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และ เงินทุนหมุนเวียนกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารจะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม รวมทั้งโครงการกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายแต่ไม่ประสงค์กู้เพิ่ม โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2
208-4171
นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทยสู้อุทกภัย ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดย ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทุกบัญชีแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554
ทางด้านแบงก์เอกชนขนาดใหญ่หลายแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มมาตรการผ่อนชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยลูกค้าบัตรเครดิตจะผ่อนผันลดยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือเพียง 0-10% และผ่อนผันชำระดอกเบี้ย โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50% จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2555 หากถึงกำหนดเวลาดังกล่าวลูกค้ายังคงประสบปัญหา ธนาคารจะพิจารณาขยายระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษนี้ออกไปอีก 6 เดือน (สิ้นเดือน ธ.ค. 2555)
ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อบ้านบัวหลวง จะผ่อนผันให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือปรับลดยอดการผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศให้สินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษในปีแรก 5% และเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ในปีถัดไป สามารถผ่อนชำระสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้สูงสุด 5 ปี
ทางด้าน ธนาคารทหารไทย ได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จะพิจารณาเป็น ราย ๆ ทั้งสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับซ่อมแซมอาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ซึ่งจะเป็นสินเชื่อระยะยาวประมาณ 5 ปี และมีระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความเสียหายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฟื้นฟู นอกจากนี้จะขยายระยะเวลาผ่อนชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนอีกสูงสุดเป็นเวลา 6 เดือน
สำหรับลูกค้าบุคคลจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบุคคลเป็นกรณีพิเศษ และผ่อนผันเกณฑ์ชำระเงินสำหรับลูกค้า ที่ค้างชำระหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบีแคชทูโกจะพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อเท่ากับวงเงินสินเชื่อเดิมที่มีอยู่กับธนาคาร และเพิ่มโบนัสพิเศษให้อีก 10% ของวงเงินสินเชื่อ ในวงเงินกู้ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท สูงสุด 5 เท่าของรายได้ โดยธนาคารจะดำเนินการหักกลบลบหนี้สินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโกที่มีอยู่เดิม และจะโอนเงินส่วนที่คงเหลือให้ลูกค้าต่อไป โดยลูกค้ายังไม่ต้องชำระค่างวดในช่วง 3 เดือนแรกนับจากวันอนุมัติ แต่จะเริ่มผ่อนชำระค่างวดตั้งแต่เดือนที่ 4 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดให้อีก 3 เดือน
นอกจากนี้ธนาคารยังขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้เพิ่มอีก 3 เดือน ลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีค่างวดค้างชำระตั้งแต่ 1-30 วัน หากเป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสามารถขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นโดยยังไม่ต้องชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระจากปัจจุบันออกไปอีก 6 เดือน
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ มาตรการช่วยเหลือทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรทุกขนาด ประกอบด้วย ลูกค้าขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ราย จากเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ปทุมธานี และสมุทรปราการ ช่วยเหลือบริษัทไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าของทางธนาคารเท่านั้น โดยธนาคารเตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบความช่วยเหลือมีทั้งการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มวงเงินพิเศษ
สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน
ขณะเดียวกัน ในด้านร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธนาคารเปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชีเดินสะพัด ชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 สาขารัชโยธิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต สามารถบริจาคผ่านสาขากว่า 1,062 สาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารที่มีกว่า 8,363 เครื่องทั่วประเทศ รวมถึงผ่านบริการ SCB Easy Net
ไม่เพียงแต่ 9 แบงก์รัฐนำทัพ โดยแบงก์ออมสิน-กรุงไทย-ธ.ก.ส. ที่แห่ระดมกันมาช่วยลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย แต่แบงก์พาณิชย์ทั้งใหญ่และเล็กทั้งแบงก์กรุงเทพ-ทหารไทย-ไทยพาณิชย์ ต่างพาเหรดคลอดแพกเกจกันอย่างคึกคัก ในรูปแบบทั้งพักหนี้-ลดดอกเบี้ย-อัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนอุ้มลูกหนี้ฝ่าวิกฤตน้ำท่วม
แม้วิกฤตน้ำท่วมยังไม่ทีทีว่าจะลดลงอย่างเร็ววันนี้ แต่หน่วยงานของรัฐกระทรวงการคลัง เดินหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 ซึ่งปัจจุบันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 กระทรวงการคลังได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ไม่ว่า จะเป็น มาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่
หนึ่ง - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำหนดเกณฑ์ กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ โดย ธ.ก.ส.รับภาระเอง อีกทั้งขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้เดิมเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และงดคิดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีบัญชี 2554-2556 และให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท และลดดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราปกติที่ ธ.ก.ส.เรียกเก็บจากลูกค้าลงร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยติดต่อสายด่วน 02 2800180 ต่อ 2352
สอง - ธนาคารออมสิน ในด้านสินเชื่อเคหะ แบบที่หนึ่ง-ให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย หรือพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 6 เดือน แบบที่สอง-ปรับลดเงินงวด และ/หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการให้สินเชื่อเคหะของธนาคาร (ไม่เกิน 30 ปี) โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1115
แบบที่สาม - ให้กู้เพิ่มเพื่อเป็นเงินกู้กรณีฉุกเฉินรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 ร้อยละ 3.25 ต่อปี ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี และแบบที่สี่- เงินกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิมรายละ 300,000 บาท และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์เดิม สำหรับประชาชนทั่วไปไม่เกินรายละ 300,000 บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับร้อยละ 3.25 ปีที่ 3-5 เท่ากับร้อยละ MLR-1 ต่อปี
ส่วนสินเชื่อธุรกิจและ SMEs ก็ยังมีให้ พักชำระหนี้เงินต้น โดยผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน รวมทั้ง ขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เดิมได้ไม่เกิน 1 ปีและ ให้กู้เพิ่มรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับร้อยละ MLR-1.50 ต่อปี ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี
สาม - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สายด่วน 02 6459000 กำหนดให้ วงเงินให้กู้สำหรับลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่เพื่อปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคารไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร/ค่าซ่อมแซมอาคาร ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยแบ่งเป็น
สี่ - ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กำหนดวงเงินกู้เพื่อปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 6 ปี และระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 2 ปีรวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ร้อยละ 8 ต่อปีตลอดอายุสัญญา โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ดังนั้นผู้ประกอบการจะจ่ายจริงที่ร้อยละ 6 ต่อปีตลอดอายุสัญญา ที่สำคัญ ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1357
ห้า - ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีการโครงการยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพ ในรูปแบบแรก-ผ่อนปรนการชำระหนี้ ทั้งส่วนเงินต้นและกำไร เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเดือนที่ 4-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไร โดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิมร้อยละ 1 หลังจากนั้นคิดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม หรือชำระเฉพาะส่วนกำไรเป็นระยะเวลา 12 เดือน เดือนที่ 13-24 ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไรตามสัญญาเดิม โดยสามารถติดต่อสายด่วน 1302
ในรูปแบบ ให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติมที่อยู่อาศัย และ/หรือสถานประกอบธุรกิจ ที่ได้รับความเสียหายตามความจำเป็น ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม/หลักประกันอื่นเพิ่มเติม และให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับใช้หมุนเวียนในธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากการได้รับผลกระทบทางอ้อม ให้สินเชื่อไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักประกันเดิม และมี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 7 ปีสำหรับสินเชื่ออเนกประสงค์ และไม่เกิน 30 ปีสำหรับสินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมที่อยู่อาศัย
หก - ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ได้มีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออก ในลักษณะขยายระยะเวลาการรับชำระหนี้ หรือการต่อตั๋วเกินเทอมและปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการนำเข้า ในรูปแบบ ขยายระยะเวลาการกู้ Trust Receipt และปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2271-2929
เจ็ด - บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก็ได้มีการกำหนดพักการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้า บสย. ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยปี 2554 และถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง 31 มีนาคม 2555 และ ให้ความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ในการผ่อนปรนเรื่องการพักชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวมทั้งการปรับ โครงสร้างหนี้เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2302-2741 ต่อ 157
แปด - บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) มีการกำหนดให้พักชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน แ ละ ปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปรวมไม่เกิน 30 ปี พร้อมทั้ง ในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะขอกู้เพิ่มเพื่อนำเงินไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย บตท. จะเป็นผู้ประสานกับสถาบันการเงินเพื่อให้กู้เพิ่มต่อไป โดยสามารถติดต่อสายด่วน 0-2618-9933
เก้า - ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. กรุงไทย) ในรูปแบบ เงินกู้กรุงไทยสู้อุทกภัย ให้วงเงินกู้ประจำ (T/L) ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และ เงินทุนหมุนเวียนกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารจะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม รวมทั้งโครงการกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายแต่ไม่ประสงค์กู้เพิ่ม โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดยสามารถติดต่อ สายด่วน 0-2
208-4171
นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทยสู้อุทกภัย ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 6 เดือน โดย ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทุกบัญชีแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554
ทางด้านแบงก์เอกชนขนาดใหญ่หลายแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มมาตรการผ่อนชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยลูกค้าบัตรเครดิตจะผ่อนผันลดยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือเพียง 0-10% และผ่อนผันชำระดอกเบี้ย โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50% จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2555 หากถึงกำหนดเวลาดังกล่าวลูกค้ายังคงประสบปัญหา ธนาคารจะพิจารณาขยายระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษนี้ออกไปอีก 6 เดือน (สิ้นเดือน ธ.ค. 2555)
ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อบ้านบัวหลวง จะผ่อนผันให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือปรับลดยอดการผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศให้สินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษในปีแรก 5% และเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ในปีถัดไป สามารถผ่อนชำระสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้สูงสุด 5 ปี
ทางด้าน ธนาคารทหารไทย ได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จะพิจารณาเป็น ราย ๆ ทั้งสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับซ่อมแซมอาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ซึ่งจะเป็นสินเชื่อระยะยาวประมาณ 5 ปี และมีระยะเวลาปลอดการชำระเงินต้นไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความเสียหายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฟื้นฟู นอกจากนี้จะขยายระยะเวลาผ่อนชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนอีกสูงสุดเป็นเวลา 6 เดือน
สำหรับลูกค้าบุคคลจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบุคคลเป็นกรณีพิเศษ และผ่อนผันเกณฑ์ชำระเงินสำหรับลูกค้า ที่ค้างชำระหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบีแคชทูโกจะพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อเท่ากับวงเงินสินเชื่อเดิมที่มีอยู่กับธนาคาร และเพิ่มโบนัสพิเศษให้อีก 10% ของวงเงินสินเชื่อ ในวงเงินกู้ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท สูงสุด 5 เท่าของรายได้ โดยธนาคารจะดำเนินการหักกลบลบหนี้สินเชื่อทีเอ็มบีแคชทูโกที่มีอยู่เดิม และจะโอนเงินส่วนที่คงเหลือให้ลูกค้าต่อไป โดยลูกค้ายังไม่ต้องชำระค่างวดในช่วง 3 เดือนแรกนับจากวันอนุมัติ แต่จะเริ่มผ่อนชำระค่างวดตั้งแต่เดือนที่ 4 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดให้อีก 3 เดือน
นอกจากนี้ธนาคารยังขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้เพิ่มอีก 3 เดือน ลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีค่างวดค้างชำระตั้งแต่ 1-30 วัน หากเป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสามารถขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นโดยยังไม่ต้องชำระเงินต้นเป็นเวลา 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระจากปัจจุบันออกไปอีก 6 เดือน
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ มาตรการช่วยเหลือทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรทุกขนาด ประกอบด้วย ลูกค้าขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ราย จากเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ปทุมธานี และสมุทรปราการ ช่วยเหลือบริษัทไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าของทางธนาคารเท่านั้น โดยธนาคารเตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบความช่วยเหลือมีทั้งการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มวงเงินพิเศษ
สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน
ขณะเดียวกัน ในด้านร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธนาคารเปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชีเดินสะพัด ชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 สาขารัชโยธิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต สามารถบริจาคผ่านสาขากว่า 1,062 สาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารที่มีกว่า 8,363 เครื่องทั่วประเทศ รวมถึงผ่านบริการ SCB Easy Net
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
อานิสงส์หลังน้ำท่วมลด 5 ธุรกิจรวยอู้ฟู่
จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายกินพื้นที่หลายจังหวัด
โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครในพื้นที่อยู่อาศัย ย่านธุรกิจร้านค้า และธุรกิจ
รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมของภาคอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบอย่างหนักกันอย่างถ้วนหน้า
ท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ กลับเป็นโอกาสทองของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับที่อยู่และของใช้ดำรงชีวิตประจำวันประจำในบ้าน จากการรวบรวมของผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ พบว่า ที่โดดเด่น มี 5 ธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ผลิตและจำหน่าย รวมทั้งธุรกิจบริการซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้องกับบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที เป็นต้น
1.วัสดุก่อสร้างรวยเละ
ความต้องการพุ่งปรี๊ด
จัดเป็นธุรกิจแรกที่น่าจะได้รับอานิสงส์ หลังจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว โดย ณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร ผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากประชาชนจะต้องซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ทำให้ความต้องการวัดสุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะปรกติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง ที่น้ำท่วมขังจะทำให้กระเบื้องปูพื้น หรือปาร์เกต์ร่อน รวมถึงสี สายไฟ เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความเสียหาย จึงต้องซ่อมแซมใหม่ ส่วนสาขาที่คาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น ได้แก่ สาขาลพบุรี และสาขาพระนครศรีอยุธยา เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานาน 2-3 เดือน
“เมื่อปีก่อนที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยอดขายในช่วงนั้นลดลงมาก แต่หลังจากที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติ ประชาชนกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมบ้านจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% และคาดว่าเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เริ่มคลี่คลายลง ยอดขายวัสดุอุปกรณ์ จะเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา คือประชาชนจะกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้โฮมโปรมียอดขายเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าที่หายไปในช่วงก่อนน้ำท่วม” ณัฏฐ์กล่าว
ขณะที่ โฮมเวิร์ค ซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท บุญถาวร และสุขภัณฑ์ รวมถึงอีเกีย ผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านวัสดุก่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งครบวงจรที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงนี้ก็จะได้รับผลดีหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เพราะเป็นผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเช่นเดียวกับโฮมโปร
สำหรับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน ทั้งผู้รับเหมารายใหญ่ และรายย่อย โดยผู้รับเหมารายใหญ่จะมีงานก่อสร้างและซ่อมแซมถนน คู คลอง ส่วนผู้รับเหมารายย่อย รวมถึงช่างปูน ช่างไม้ ช่างสี ช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์ จะมีงานซ่อมแซมมากขึ้น เพราะได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจัดสวน ธุรกิจขายต้นไม้ งานตกแต่ง แลนด์สเคป ภูมิสถาปัตย์ วิศกรจะมีงานเข้ามามากมาย เพราะน้ำท่วมทำให้สวนเสียหายด้วยเช่นกัน
ส่วนภาคธุรกิจบริการอย่างบริษัทรักษาความสะอาดจะได้รับผลดีด้วย เพราะจะมีการจ้างพนักงานทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านเรือน รวมถึงออฟฟิศด้วย
2.เครื่องใช้ไฟฟ้า
ซื้อใหม่-บริการซ่อม
สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสินค้าปัจจัยที่ 5 จำเป็นแก่การใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติดังกล่าว คาดว่าหลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า วิทยุ เป็นต้น ผู้บริโภคที่ประสบอุทกภัยหลายรายที่ไม่สามารถขนย้ายสินค้าดังกล่าวได้ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดที่มีน้ำท่วม โดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดปัจจุบันมีผู้ผลิตและจำหน่ายจากค่ายเกาหลี และญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์เกาหลี อย่างซัมซุง และแอลจี เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
นอกจากนี้ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นธุรกิจที่มีความต้องการไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างนัก ธุรกิจบริการซ่อมตรวจเช็คและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น
โดยผู้บริหารของค่ายซิงเกอร์ จำกัด (มหาชน) บุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ ให้ความเห็นว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วและมาแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งซิงเกอร์ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งในแง่ของกำลังซื้อจากลูกค้าและพนักงานขายในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ บริษัทจึงได้แก้วิกฤตโดยการตั้งทีมซ่อมตรวจเช็กและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการรับสมัครและเพิ่มทีมช่างกว่า 300 นาย สำหรับรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ทุกประเภทสินค้า
เนื่องจากซิงเกอร์มีความแข็งแกร่งและได้รับการ ยอมรับในเรื่องของบริการหลังการขายในกลุ่มสินค้าซิงเกอร์อยู่แล้วและการขยาย ธุรกิจรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่ายดังกล่าวจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าและ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและรับรู้ในกว้างขึ้น สอดคล้องกับสภาพตลาดหลังน้ำลด ซึ่งจะมีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการตรวจสภาพและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ น้ำท่วม
“กลุ่มลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเรียกซ่อมได้ที่ไหน หรือการรอทีมช่างของแต่ละค่ายสินค้าอาจมีความล่าช้าและรอนาน การบริการหลังการขายและซ่อมสินค้าเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเรา บวกกับทีมช่างที่เชี่ยวชาญ เรามั่นใจว่าไม่มีแบรนด์ไหนครบและพร้อมเท่าเรา ซึ่งการตั้งเป็นทีมที่ชัดเจนและมีทีมช่างจำนวนมาก ตรงนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” บุญยงกล่าว
ทั้งนี้ ซิงเกอร์ได้นำร่องนำทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วขึ้นมา 10 ทีม เพื่อเตรียมไปตรวจสอบและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงเข้ามาเสริมและทดแทนกลุ่ม สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าร้านค้าโชห่วยเนื่องจากการลง พื้นที่และใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของชุมชนตามหมู่บ้านที่มีร้านค้าโชห่วยมากขึ้น ซึ่งแต่ละร้านอยากจะตกแต่งและวางสินค้าให้ทันสมัยเหมือนร้านคอนวีเนียนสโตร์ ในเมือง
อย่างไรก็ตาม คีย์แมนซิงเกอร์ยอมรับว่ากังวลเรื่องน้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบในกลุ่มลูกค้า ซึ่งล่าสุดมีประมาณ 5,000 บัญชี ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.4 แสนบัญชีควบคู่กับการปรับแผนเรียกเก็บค่างวดสินค้าเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 500 บาทต่อเดือน ในบัญชีลูกค้าที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ชดเชยกับที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่างวดสินค้าได้ในขณะนี้
3.ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า
จัดหนักลดแลกแจกแถม
อีกธุรกิจหนึ่งที่คงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อในยามที่วิกฤติน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว นั่นคือ ธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเพาเวอร์บายในเครือเซ็นทรัล และเพาเวอร์มอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ ที่ออกโรงย้ำชัด หลังน้ำลดเตรียมออกแคมเปญลดแลกแจกแถม เพื่อเร่งขายสินค้าในช่วงปลายปี พร้อมช่วยผู้บริโภคซื้อสินค้าในราคาประหยัด หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยบรรเทาทุกข์
สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เชื่อว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายได้เร็ว และธุรกิจยังคงมีความหวังในยอดขายปลายเดือนธันวาคม คาบเกี่ยวถึงมกราคมที่เป็นหน้าขายสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากซื้อเป็นของขวัญให้กันและกันแล้วในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ยังมั่นใจว่าหลังสถานการณ์น้ำลดจะส่งผลดีต่อไตรมาส 1 ปีหน้าเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าจำเป็นในบ้าน
“เราได้เตรียมความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้หลายทาง ทางตรงคือการลงพื้นที่ช่วยเหลือ ขณะนี้ได้พูดคุยกับทางซัปพลายเออร์แบรนด์สินค้าและสถาบันการเงินเพื่อหาแคมเปญพิเศษออกมา จะเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายบริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้า ทั้งในส่วนของดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และสินค้าใหม่ที่เราเตรียมไว้เพื่อเข้ามาช่วยเร่งยอดขาย อาทิเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น”
ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่ม ฯลฯ เฉพาะกระแสความตื่นตระหนกคนกรุงเทพฯก็ทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 ของค่ายต่างๆ พุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% บรรดาผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ก็เตรียมรับมือ ทั้งเพิ่มกำลังการผลิตและสต๊อกสินค้าไว้หลังจากน้ำลด
นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังได้ลดยกแผนกทั้งเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และแกดเจ็ตสุดล้ำ พิเศษช็อปผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ รับบัตรกำนัลส่วนลดเพิ่ม เงินคืนสูงสุด 25%และผ่อน 0% นาน 20 เดือน พร้อมรับคืนสูงสุด 10% กับ Citi M Visa และCitibank พิเศษสุดเฉพาะสมาชิก M Card รับสิทธิพิเศษสูงสุด 12% ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์
4.จำหน่ายอุปกรณ์ไอที
แน่นอนว่าอีกหนึ่งตลาดที่จะมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างมากในช่วงหลังน้ำลด คือ ตลาดสินค้าไอที เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันอุปกรณ์ไอทีเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป โน้ตบุ๊ก และแท็บเลต
การซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเดิมที่ชำรุด น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยผู้ประกอบการค่ายต่างๆ คงจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการตัดสินใจรวดเร็วขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีการจัดบริการพิเศษซ่อมและลดค่าใช้จ่ายอะไหล่ก็ตาม
ทางด้าน เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด โดย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับกำลังซื้อของตลาดไอทีหลังน้ำลดว่า เอเซอร์มองปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ตลาด ได้แก่ หนึ่ง-คอนซูเมอร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไอทีใช้ภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์พีซี เป็นต้น โดยด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเข้ามาใหม่อาจจะต้องรอถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเป็นลำดับแรก และสอง-กลุ่มองค์กร ตลาดกลุ่มนี้คาดว่าอาจจะเริ่มกลับมาทันที เพราะความต้องการเครื่องทดแทนมีมาก โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบที่มีเป็นจำนวนมาก
“ยังไม่มีการประเมินตัวเลขว่าตลาดคอนซูเมอร์จะหดตัวลงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปกติไตรมาส 4 กำลังซื้อหดยู่แล้วประมาณ 5-10% ดังนั้น จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น จึงน่าจะส่งผลให้ตลาดหดตัวลงมากกว่า 10%”
นิธิพัทธ์บอกว่า แผนการรับมือกำลังซื้อตลาดองค์กร หลังน้ำลดของเอเซอร์ เบื้องต้นได้วางไว้ 2 แนวทาง สำหรับแนวทางแรกได้มีการจัดตั้งรถเคลื่อนที่เข้าไปดูแลซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมทำการซ่อมเครื่องให้เสร็จภายใน 1 วัน ส่วนแนวทางสอง หากเครื่องไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะเป็นการให้ลิสซิ่งในการซื้อเครื่องใหม่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ค่ายโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด นั้น ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศ ส่วนธุรกิจไอที เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ยอดขายของโตชิบาลดลง20-30% เพราะวิกฤติน้ำท่วมสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในพื้นที่หลายจังหวัด เนื่องจากรถส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ได้ ทำให้ยอดขายสินค้าในช่วงนี้ลดลงไป อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 บริษัทยังคาดหวังยอดขายในงานคอมมาร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะพยายามจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย
สำหรับแผนรองรับหลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ทางโตชิบาจะขยายเครดิตในการชำระเงินของดิสทริบิวเตอร์ให้มีเวลานานขึ้น และเตรียมสต็อกสินค้าให้กับร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีสินค้าขายต่อ ไป อีกทั้งในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจะพยายามกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายด้วย การนำเสนอโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม
“แม้จะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แต่บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งยอดขายทั้งปียังวางไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีจะเห็นชัดเจนในช่วงเดือนธันวาคม 2554-มกราคม 2555 ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าไอทีเติบโตเพิ่มขึ้น 10%” ถกล กล่าวปิดท้าย
ขณะที่ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต โดยกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ปฐม อินทโรดม มองว่า หลังน้ำลดจะมีกำลังซื้อก้อนหนึ่งที่อั้นไว้ตั้งแต่ไตรมาส 3 กลับมา แต่อาจไม่ถึง 100%
“ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้เป็นวงกว้าง จึงไม่แน่ใจจะฟื้นเร็ว เพราะกลุ่มอุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ จะเป็นตลาดแรกที่ฟื้นฟูกลับเต็มร้อย จากนั้นจึงเป็นสินค้ากลุ่มไอที โดยคาดว่าอย่างเร็วสุดตลาดรวมไอทีน่าจะฟื้นในไตรมาส 4 อย่างช้าก็ไตรมาส 1 ปีหน้า” ปฐมกล่าว และหวังว่ากำลังซื้อระยะสั้นที่อั้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 จะกลับมาหลังน้ำลด ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรวมไอที โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้นเพื่อสร้างมั่นใจลูกค้า รวมถึงย้ายวันจัดงานคอมมาร์ตจากปลายเดือนตุลาคม มาเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่มดังกล่าว
ในส่วนของราคาสินค้า เชื่อว่าจะมีการคงราคาหรือปรับลงอย่างมาก รวมถึงอาจจะมีแคมเปญทางการตลาดเพื่อดึงดีมานด์ในช่วงเดือนสุดท้ายอย่างหนัก
การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการจะเกิดขึ้นอย่าง แน่นอน แต่ละรายต้องพยายามที่จะสร้างยอดขายปิดปลายปีให้เข้าเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ ต้นปี จึงน่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจในการ เลือกซื้อสินค้าจากแคมเปญโปรโมชั่นที่จะถูกจัดเต็มและจัดหนักจาก ผู้ประกอบการทุกค่าย
5.จำหน่ายรถยนต์รับอานิสงส์
รถใหญ่ขายดี-บริการซ่อม
ไม่เพียงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้สำนักงานที่คาดว่าผู้ซื้อจะมีความต้องการอย่างมากหลังวิกฤติน้ำผ่านพ้นไป อีกโปรดักส์หนึ่งสำคัญ นั่นคือ รถยนตร์ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ เพราะรถยนต์หลายคันทั้งเก่าและใหม่ได้รับความเสียหายจมน้ำเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะต้องซื้อหารถยนต์ใหม่ และบางรายที่ใช้รถคันเก่าก็ได้โอกาสเปลี่ยนเป็นคันใหม่
บุรินทร์ โอภาสเศรษฐกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วอลโว่ ทรัคส์ แอนด์ บัส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกวอลโว่ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหลังจากน้ำลด ตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากมีความต้องการรถบรรทุก สำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งการขนส่งสินค้าสาธารณูปโภค อุปกรณ์ก่อสร้างหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ที่เสียหายไป
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถบรรทุกก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วม เติบโตขึ้นจากปี 2553 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ 16 ตันขึ้นไป ซึ่งคาดว่าปี 2554 จะมียอดขายรวม 1 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 15-20% โดยในส่วนของวอลโว่ ช่วง 8 เดือนแรก มียอดขายที่เติบโต 87% และคาดว่าปีนี้จะทำได้ 500 คัน ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 200 คัน
“การขยายตัวของตลาดมาจากลูกค้าขยายงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี งานเหมือง และขนส่งสินค้าทั่วไป รวมไปถึงการขยายงานไปต่างประเทศอย่างลาว ที่มีทั้งงานเหมือง และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่นอกพื้นที่น้ำท่วม การเติบโตอย่างรวดเร็วของวอลโว่ เนื่องจากมีการวางแผนธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะการเน้นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การเปิดโปรแกรม เซอร์วิส คอนแทร็กต์ ที่ช่วยลูกค้าคิดค่าใช้จ่ายเป็นกิโลเมตร การเป็นค่ายแรกๆ ที่จัดกิจกรรมฝึกทักษะขับขี่ให้แก่พนักงานขับรถของลูกค้า การมีแอ็กชัน เซอร์วิส ที่จะช่วยให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้น” บุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากธุรกิจจำหน่ายรถยนตร์ทั้งขนาดเล็กและรถใหญ่เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้าหรือผู้ประสบภัยที่มีหลายจังหวัดในประเทศไทย อีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่นิยม ได้แก่ ธุรกิจบริการซ่อมบำรุงรถยนตร์ ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนตร์จากญี่ปุ่นและยุโรปแบรนด์ดังๆ ในธุรกิจ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า เบนซ์ ล้วนมีบริการซ่อมบำรุงให้กับลูกค้ารวมทั้งธุรกิจคาร์ แคร์ ที่คงได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ประสบภัยอย่างแน่นอน
ท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ กลับเป็นโอกาสทองของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับที่อยู่และของใช้ดำรงชีวิตประจำวันประจำในบ้าน จากการรวบรวมของผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ พบว่า ที่โดดเด่น มี 5 ธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ผลิตและจำหน่าย รวมทั้งธุรกิจบริการซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้องกับบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และไอที เป็นต้น
1.วัสดุก่อสร้างรวยเละ
ความต้องการพุ่งปรี๊ด
จัดเป็นธุรกิจแรกที่น่าจะได้รับอานิสงส์ หลังจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว โดย ณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร ผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากประชาชนจะต้องซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ทำให้ความต้องการวัดสุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะปรกติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุอุปกรณ์ตกแต่ง ที่น้ำท่วมขังจะทำให้กระเบื้องปูพื้น หรือปาร์เกต์ร่อน รวมถึงสี สายไฟ เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความเสียหาย จึงต้องซ่อมแซมใหม่ ส่วนสาขาที่คาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น ได้แก่ สาขาลพบุรี และสาขาพระนครศรีอยุธยา เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานาน 2-3 เดือน
“เมื่อปีก่อนที่จังหวัดนครราชสีมาประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยอดขายในช่วงนั้นลดลงมาก แต่หลังจากที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติ ประชาชนกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมบ้านจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% และคาดว่าเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เริ่มคลี่คลายลง ยอดขายวัสดุอุปกรณ์ จะเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา คือประชาชนจะกลับมาเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้โฮมโปรมียอดขายเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าที่หายไปในช่วงก่อนน้ำท่วม” ณัฏฐ์กล่าว
ขณะที่ โฮมเวิร์ค ซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท บุญถาวร และสุขภัณฑ์ รวมถึงอีเกีย ผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านวัสดุก่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งครบวงจรที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงนี้ก็จะได้รับผลดีหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง เพราะเป็นผู้ค้าวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเช่นเดียวกับโฮมโปร
สำหรับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง ก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน ทั้งผู้รับเหมารายใหญ่ และรายย่อย โดยผู้รับเหมารายใหญ่จะมีงานก่อสร้างและซ่อมแซมถนน คู คลอง ส่วนผู้รับเหมารายย่อย รวมถึงช่างปูน ช่างไม้ ช่างสี ช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์ จะมีงานซ่อมแซมมากขึ้น เพราะได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจจัดสวน ธุรกิจขายต้นไม้ งานตกแต่ง แลนด์สเคป ภูมิสถาปัตย์ วิศกรจะมีงานเข้ามามากมาย เพราะน้ำท่วมทำให้สวนเสียหายด้วยเช่นกัน
ส่วนภาคธุรกิจบริการอย่างบริษัทรักษาความสะอาดจะได้รับผลดีด้วย เพราะจะมีการจ้างพนักงานทำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านเรือน รวมถึงออฟฟิศด้วย
2.เครื่องใช้ไฟฟ้า
ซื้อใหม่-บริการซ่อม
สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสินค้าปัจจัยที่ 5 จำเป็นแก่การใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติดังกล่าว คาดว่าหลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า วิทยุ เป็นต้น ผู้บริโภคที่ประสบอุทกภัยหลายรายที่ไม่สามารถขนย้ายสินค้าดังกล่าวได้ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดที่มีน้ำท่วม โดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดปัจจุบันมีผู้ผลิตและจำหน่ายจากค่ายเกาหลี และญี่ปุ่น โดยเฉพาะแบรนด์เกาหลี อย่างซัมซุง และแอลจี เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
นอกจากนี้ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นธุรกิจที่มีความต้องการไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างนัก ธุรกิจบริการซ่อมตรวจเช็คและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น
โดยผู้บริหารของค่ายซิงเกอร์ จำกัด (มหาชน) บุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ ให้ความเห็นว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วและมาแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งซิงเกอร์ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งในแง่ของกำลังซื้อจากลูกค้าและพนักงานขายในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ บริษัทจึงได้แก้วิกฤตโดยการตั้งทีมซ่อมตรวจเช็กและบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการรับสมัครและเพิ่มทีมช่างกว่า 300 นาย สำหรับรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ทุกประเภทสินค้า
เนื่องจากซิงเกอร์มีความแข็งแกร่งและได้รับการ ยอมรับในเรื่องของบริการหลังการขายในกลุ่มสินค้าซิงเกอร์อยู่แล้วและการขยาย ธุรกิจรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกค่ายดังกล่าวจะเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าและ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและรับรู้ในกว้างขึ้น สอดคล้องกับสภาพตลาดหลังน้ำลด ซึ่งจะมีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการตรวจสภาพและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ น้ำท่วม
“กลุ่มลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเรียกซ่อมได้ที่ไหน หรือการรอทีมช่างของแต่ละค่ายสินค้าอาจมีความล่าช้าและรอนาน การบริการหลังการขายและซ่อมสินค้าเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเรา บวกกับทีมช่างที่เชี่ยวชาญ เรามั่นใจว่าไม่มีแบรนด์ไหนครบและพร้อมเท่าเรา ซึ่งการตั้งเป็นทีมที่ชัดเจนและมีทีมช่างจำนวนมาก ตรงนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” บุญยงกล่าว
ทั้งนี้ ซิงเกอร์ได้นำร่องนำทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วขึ้นมา 10 ทีม เพื่อเตรียมไปตรวจสอบและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงเข้ามาเสริมและทดแทนกลุ่ม สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าร้านค้าโชห่วยเนื่องจากการลง พื้นที่และใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของชุมชนตามหมู่บ้านที่มีร้านค้าโชห่วยมากขึ้น ซึ่งแต่ละร้านอยากจะตกแต่งและวางสินค้าให้ทันสมัยเหมือนร้านคอนวีเนียนสโตร์ ในเมือง
อย่างไรก็ตาม คีย์แมนซิงเกอร์ยอมรับว่ากังวลเรื่องน้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบในกลุ่มลูกค้า ซึ่งล่าสุดมีประมาณ 5,000 บัญชี ที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.4 แสนบัญชีควบคู่กับการปรับแผนเรียกเก็บค่างวดสินค้าเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 500 บาทต่อเดือน ในบัญชีลูกค้าที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ชดเชยกับที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่างวดสินค้าได้ในขณะนี้
3.ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า
จัดหนักลดแลกแจกแถม
อีกธุรกิจหนึ่งที่คงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อในยามที่วิกฤติน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว นั่นคือ ธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเพาเวอร์บายในเครือเซ็นทรัล และเพาเวอร์มอลล์ ในเครือเดอะมอลล์ ที่ออกโรงย้ำชัด หลังน้ำลดเตรียมออกแคมเปญลดแลกแจกแถม เพื่อเร่งขายสินค้าในช่วงปลายปี พร้อมช่วยผู้บริโภคซื้อสินค้าในราคาประหยัด หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยบรรเทาทุกข์
สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เชื่อว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายได้เร็ว และธุรกิจยังคงมีความหวังในยอดขายปลายเดือนธันวาคม คาบเกี่ยวถึงมกราคมที่เป็นหน้าขายสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากซื้อเป็นของขวัญให้กันและกันแล้วในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ยังมั่นใจว่าหลังสถานการณ์น้ำลดจะส่งผลดีต่อไตรมาส 1 ปีหน้าเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าจำเป็นในบ้าน
“เราได้เตรียมความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้หลายทาง ทางตรงคือการลงพื้นที่ช่วยเหลือ ขณะนี้ได้พูดคุยกับทางซัปพลายเออร์แบรนด์สินค้าและสถาบันการเงินเพื่อหาแคมเปญพิเศษออกมา จะเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายบริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้า ทั้งในส่วนของดีมานด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และสินค้าใหม่ที่เราเตรียมไว้เพื่อเข้ามาช่วยเร่งยอดขาย อาทิเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น”
ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่ม ฯลฯ เฉพาะกระแสความตื่นตระหนกคนกรุงเทพฯก็ทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 ของค่ายต่างๆ พุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% บรรดาผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ก็เตรียมรับมือ ทั้งเพิ่มกำลังการผลิตและสต๊อกสินค้าไว้หลังจากน้ำลด
นอกจากนี้ เพาเวอร์ มอลล์ ยังได้ลดยกแผนกทั้งเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และแกดเจ็ตสุดล้ำ พิเศษช็อปผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ รับบัตรกำนัลส่วนลดเพิ่ม เงินคืนสูงสุด 25%และผ่อน 0% นาน 20 เดือน พร้อมรับคืนสูงสุด 10% กับ Citi M Visa และCitibank พิเศษสุดเฉพาะสมาชิก M Card รับสิทธิพิเศษสูงสุด 12% ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์
4.จำหน่ายอุปกรณ์ไอที
แน่นอนว่าอีกหนึ่งตลาดที่จะมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างมากในช่วงหลังน้ำลด คือ ตลาดสินค้าไอที เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันอุปกรณ์ไอทีเข้ามามีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป โน้ตบุ๊ก และแท็บเลต
การซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเดิมที่ชำรุด น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยผู้ประกอบการค่ายต่างๆ คงจะมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการตัดสินใจรวดเร็วขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีการจัดบริการพิเศษซ่อมและลดค่าใช้จ่ายอะไหล่ก็ตาม
ทางด้าน เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด โดย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับกำลังซื้อของตลาดไอทีหลังน้ำลดว่า เอเซอร์มองปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ตลาด ได้แก่ หนึ่ง-คอนซูเมอร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไอทีใช้ภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์พีซี เป็นต้น โดยด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเข้ามาใหม่อาจจะต้องรอถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเป็นลำดับแรก และสอง-กลุ่มองค์กร ตลาดกลุ่มนี้คาดว่าอาจจะเริ่มกลับมาทันที เพราะความต้องการเครื่องทดแทนมีมาก โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบที่มีเป็นจำนวนมาก
“ยังไม่มีการประเมินตัวเลขว่าตลาดคอนซูเมอร์จะหดตัวลงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปกติไตรมาส 4 กำลังซื้อหดยู่แล้วประมาณ 5-10% ดังนั้น จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น จึงน่าจะส่งผลให้ตลาดหดตัวลงมากกว่า 10%”
นิธิพัทธ์บอกว่า แผนการรับมือกำลังซื้อตลาดองค์กร หลังน้ำลดของเอเซอร์ เบื้องต้นได้วางไว้ 2 แนวทาง สำหรับแนวทางแรกได้มีการจัดตั้งรถเคลื่อนที่เข้าไปดูแลซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมทำการซ่อมเครื่องให้เสร็จภายใน 1 วัน ส่วนแนวทางสอง หากเครื่องไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะเป็นการให้ลิสซิ่งในการซื้อเครื่องใหม่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ค่ายโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด นั้น ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศ ส่วนธุรกิจไอที เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ยอดขายของโตชิบาลดลง20-30% เพราะวิกฤติน้ำท่วมสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในพื้นที่หลายจังหวัด เนื่องจากรถส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ได้ ทำให้ยอดขายสินค้าในช่วงนี้ลดลงไป อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 บริษัทยังคาดหวังยอดขายในงานคอมมาร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะพยายามจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย
สำหรับแผนรองรับหลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ทางโตชิบาจะขยายเครดิตในการชำระเงินของดิสทริบิวเตอร์ให้มีเวลานานขึ้น และเตรียมสต็อกสินค้าให้กับร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีสินค้าขายต่อ ไป อีกทั้งในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจะพยายามกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายด้วย การนำเสนอโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม
“แม้จะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แต่บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งยอดขายทั้งปียังวางไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีจะเห็นชัดเจนในช่วงเดือนธันวาคม 2554-มกราคม 2555 ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าไอทีเติบโตเพิ่มขึ้น 10%” ถกล กล่าวปิดท้าย
ขณะที่ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต โดยกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ปฐม อินทโรดม มองว่า หลังน้ำลดจะมีกำลังซื้อก้อนหนึ่งที่อั้นไว้ตั้งแต่ไตรมาส 3 กลับมา แต่อาจไม่ถึง 100%
“ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้เป็นวงกว้าง จึงไม่แน่ใจจะฟื้นเร็ว เพราะกลุ่มอุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ จะเป็นตลาดแรกที่ฟื้นฟูกลับเต็มร้อย จากนั้นจึงเป็นสินค้ากลุ่มไอที โดยคาดว่าอย่างเร็วสุดตลาดรวมไอทีน่าจะฟื้นในไตรมาส 4 อย่างช้าก็ไตรมาส 1 ปีหน้า” ปฐมกล่าว และหวังว่ากำลังซื้อระยะสั้นที่อั้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 จะกลับมาหลังน้ำลด ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรวมไอที โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้นเพื่อสร้างมั่นใจลูกค้า รวมถึงย้ายวันจัดงานคอมมาร์ตจากปลายเดือนตุลาคม มาเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่มดังกล่าว
ในส่วนของราคาสินค้า เชื่อว่าจะมีการคงราคาหรือปรับลงอย่างมาก รวมถึงอาจจะมีแคมเปญทางการตลาดเพื่อดึงดีมานด์ในช่วงเดือนสุดท้ายอย่างหนัก
การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการจะเกิดขึ้นอย่าง แน่นอน แต่ละรายต้องพยายามที่จะสร้างยอดขายปิดปลายปีให้เข้าเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ ต้นปี จึงน่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจในการ เลือกซื้อสินค้าจากแคมเปญโปรโมชั่นที่จะถูกจัดเต็มและจัดหนักจาก ผู้ประกอบการทุกค่าย
5.จำหน่ายรถยนต์รับอานิสงส์
รถใหญ่ขายดี-บริการซ่อม
ไม่เพียงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้สำนักงานที่คาดว่าผู้ซื้อจะมีความต้องการอย่างมากหลังวิกฤติน้ำผ่านพ้นไป อีกโปรดักส์หนึ่งสำคัญ นั่นคือ รถยนตร์ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ เพราะรถยนต์หลายคันทั้งเก่าและใหม่ได้รับความเสียหายจมน้ำเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะต้องซื้อหารถยนต์ใหม่ และบางรายที่ใช้รถคันเก่าก็ได้โอกาสเปลี่ยนเป็นคันใหม่
บุรินทร์ โอภาสเศรษฐกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท วอลโว่ ทรัคส์ แอนด์ บัส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถบรรทุกวอลโว่ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหลังจากน้ำลด ตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากมีความต้องการรถบรรทุก สำหรับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งการขนส่งสินค้าสาธารณูปโภค อุปกรณ์ก่อสร้างหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ที่เสียหายไป
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถบรรทุกก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วม เติบโตขึ้นจากปี 2553 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ 16 ตันขึ้นไป ซึ่งคาดว่าปี 2554 จะมียอดขายรวม 1 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 15-20% โดยในส่วนของวอลโว่ ช่วง 8 เดือนแรก มียอดขายที่เติบโต 87% และคาดว่าปีนี้จะทำได้ 500 คัน ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 200 คัน
“การขยายตัวของตลาดมาจากลูกค้าขยายงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี งานเหมือง และขนส่งสินค้าทั่วไป รวมไปถึงการขยายงานไปต่างประเทศอย่างลาว ที่มีทั้งงานเหมือง และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่นอกพื้นที่น้ำท่วม การเติบโตอย่างรวดเร็วของวอลโว่ เนื่องจากมีการวางแผนธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะการเน้นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การเปิดโปรแกรม เซอร์วิส คอนแทร็กต์ ที่ช่วยลูกค้าคิดค่าใช้จ่ายเป็นกิโลเมตร การเป็นค่ายแรกๆ ที่จัดกิจกรรมฝึกทักษะขับขี่ให้แก่พนักงานขับรถของลูกค้า การมีแอ็กชัน เซอร์วิส ที่จะช่วยให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิดคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้น” บุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากธุรกิจจำหน่ายรถยนตร์ทั้งขนาดเล็กและรถใหญ่เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้าหรือผู้ประสบภัยที่มีหลายจังหวัดในประเทศไทย อีกธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่นิยม ได้แก่ ธุรกิจบริการซ่อมบำรุงรถยนตร์ ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนตร์จากญี่ปุ่นและยุโรปแบรนด์ดังๆ ในธุรกิจ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า เบนซ์ ล้วนมีบริการซ่อมบำรุงให้กับลูกค้ารวมทั้งธุรกิจคาร์ แคร์ ที่คงได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ประสบภัยอย่างแน่นอน
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
Search Engine Friendly
สองสามวันมานี้ผมลองใช้ Drupal ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือ Content Management System (CMS) ถ้าเทียบกับ Joomla แล้วผมว่า Joomla นี่ใช้งานง่ายกว่า แต่พอลองใช้จริงๆ แล้ว Drupal นี่สามารถปรับแก้อะไรต่างๆ ได้ง่ายมาก แล้วผมก็ไปเจอ Clean URLs ซึ่งอธิบายง่ายๆ ไว้แบบนี้
1. พิมพ์คำสั่งเพื่อให้ Apache เปิดใช้งาน mod_rewrite ก่อน
3. รีสตาร์ท Apache
ทีนี้ผมก็เลยสนใจว่ามันคืออะไรกันแน่ ค้นไปค้นมาก็รู้ว่าชื่อจริงๆ ของมันก็คือ Search Engine Friendly (SEF) อธิบายง่ายๆ คือทำให้ชื่อบทความหรือบล็อกในเว็บเรามีชื่อที่ง่ายขึ้นแบบตัวอย่างข้างต้น สามารถทำได้ง่ายๆ ใน Ubuntu โดยให้เราไป Enable mod_rewrite ใน apache เสียก่อน
Use URLs likeexample.com/user
instead ofexample.com/?q=user
.
การทำให้ Apache2 ใช้งาน mod_rewrite
1. พิมพ์คำสั่งเพื่อให้ Apache เปิดใช้งาน mod_rewrite ก่อน
sudo a2enmod rewrite2. แก้ไข Configure
sudo gedit /etc/apache2/sites-available/defaultเปลี่ยน AllowOverride None เป็น AllowOverride All แล้วเซฟไฟล์
3. รีสตาร์ท Apache
sudo /etc/init.d/apache2 restartเรียบร้อยง่ายมากๆ
ป้ายกำกับ:
apache,
clean url,
drupal,
joomla,
mod_rewrite
วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
Firefox 8 Officially Released
เว็บบราวเซอร์ยอดนิยมอีกตัวหนึ่ง Firefox จิ้งจอกเพลิง ออกเวอร์ชันใหม่ แล้วนะครับ ณ ปัจจุบันก็เป็นเวอร์ชัน 8 แล้ว รวดเร็วมากๆ หมายถึงการออกเวอร์ชันนะครับ ส่วนความเร็วในการท่องเว็บนั้นผู้ใช้แต่ละคนจะเป็นผู้ตัดสินเอง แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นแฟนเจ้าจิ้งจอกเพลิงนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ยังสมัยคบกับวินโดวส์อยู่ ตอนนี้เลิกคบอย่างเป็นทางการแล้วก็ยังติดใจในหลายๆ อย่างของเว็บบราวเซอร์ตัวนี้
การออกเวอร์ชัน 8 นี้มีนัยยะของหมายเลขเวอร์ชันให้ตาม Internet Explorer (ie) หรือเปล่า ตอนนี้ ie รุ่นที่เสถียรเป็นเวอร์ชัน 9 ส่วนเวอร์ชัน 10 คงออกมาเร็วๆ นี้ (ประมาณต้นปี 2555)
สำหรับ Ubuntu 11.04 และ 11.10 จะปรับเป็น เวอร์ชัน 8 อัตโนมัติ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม เพียงแต่ว่าคุณต้องอัพเดตระบบของคุณอย่างสม่ำเสมอ Firefox ก็จะปรับรุ่นโดยอัตโนมัติ
ส่วนผู้ที่ใช้ Ubuntu 10.04 LTS นั้นถ้าต้องการใช้ Firefox เวอร์ชันล่าสุดต้องเพิ่ม PPA ก่อนแล้วจึงสามารถอัพเดต Firefox ได้
หลังจากลองเพิ่ม ppa แล้วอัพเดตปรากฎว่า Ubuntu 10.04 LTS ของผมซึ่งเป็นเวอร์ชัน 64 bit ไม่สามารถอัพเดตเป็น Firefox 8 ได้ Firefox ที่มาพร้อมกับ 10.04 นั้นจะเป็น Firefox 3.6 ผมอัพเดตทีเดียวข้ามจาก 3 เป็น 7.0.1 เลย ไม่แน่ใจว่าสำหรับใครที่ใช้ 10.04 32 bit จะเป็นเช่นเดียวกันหรือเปล่า
Install Firefox 8 manually
(credit http://www.libre-software.net/how-to-install-firefox-on-ubuntu-linux-mint )
ตอนนี้เราได้ติดตั้ง Firefox 8 เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเปิดจากลิงค์ในเมนเมนู หรือชอร์ตคัท จะเป็นเวอร์ชันเก่า
การออกเวอร์ชัน 8 นี้มีนัยยะของหมายเลขเวอร์ชันให้ตาม Internet Explorer (ie) หรือเปล่า ตอนนี้ ie รุ่นที่เสถียรเป็นเวอร์ชัน 9 ส่วนเวอร์ชัน 10 คงออกมาเร็วๆ นี้ (ประมาณต้นปี 2555)
สำหรับ Ubuntu 11.04 และ 11.10 จะปรับเป็น เวอร์ชัน 8 อัตโนมัติ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม เพียงแต่ว่าคุณต้องอัพเดตระบบของคุณอย่างสม่ำเสมอ Firefox ก็จะปรับรุ่นโดยอัตโนมัติ
ส่วนผู้ที่ใช้ Ubuntu 10.04 LTS นั้นถ้าต้องการใช้ Firefox เวอร์ชันล่าสุดต้องเพิ่ม PPA ก่อนแล้วจึงสามารถอัพเดต Firefox ได้
sudo add-apt-repository ppa:mozillateam/firefox-stable
sudo apt-get update && sudo apt-get upgrade
หลังจากลองเพิ่ม ppa แล้วอัพเดตปรากฎว่า Ubuntu 10.04 LTS ของผมซึ่งเป็นเวอร์ชัน 64 bit ไม่สามารถอัพเดตเป็น Firefox 8 ได้ Firefox ที่มาพร้อมกับ 10.04 นั้นจะเป็น Firefox 3.6 ผมอัพเดตทีเดียวข้ามจาก 3 เป็น 7.0.1 เลย ไม่แน่ใจว่าสำหรับใครที่ใช้ 10.04 32 bit จะเป็นเช่นเดียวกันหรือเปล่า
Install Firefox 8 manually
(credit http://www.libre-software.net/how-to-install-firefox-on-ubuntu-linux-mint )
1. ดาวน์โหลด
ดาวน์โหลด จาก ftp://ftp.mozilla.org/pub/firefox/releases/8.0/ สามารถเลือกได้ทั้งแบบ 32 bit และ 64 bit แถมยังเลือกภาษาได้อีกด้วย
2. แตกไฟล์
cd ~/Downloads
tar xjf firefox-8.0.tar.bz2
3. ย้ายไฟล์ไปที่ /opt
ถ้ามี Firefox เวอร์ชันเก่าอยู่ที่ /opt อยู่แล้วให้ลบออกก่อนsudo rm -r /opt/firefoxจากนั้นให้ย้ายไฟล์ที่แตกไฟล์ไว้ในข้อ 2. ไปที่โฟลเดอร์ /opt โดย
sudo mv firefox /opt/firefox84. สร้างลิงค์ให้ Firefox
ตอนนี้เราได้ติดตั้ง Firefox 8 เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเปิดจากลิงค์ในเมนเมนู หรือชอร์ตคัท จะเป็นเวอร์ชันเก่า
- สำรองไฟล์ของเวอร์ชันเก่า
sudo mv /usr/bin/firefox /usr/bin/firefox-old
- สร้างลิงค์ให้เวอร์ชันใหม่
sudo ln -s /opt/firefox8/firefox /usr/bin/firefox
การปรับเวอร์ชันของ Firefox
- Firefox 2 24 ตุลาคม 2549
- Firefox 3 17 มิถุนายน 2551
- Firefox 4 22 มีนาคม 2554
- Firefox 5 21 มิถุนายน 2554
- Firefox 6 14 สิงหาคม 2554
- Firefox 7 27 กันยายน 2554
- Firefox 8 8 พฤศจิกายน 2554
- Firefox 9 20 ธันวาคม 2554
- Firefox 10 31 มกราคม 2555
- Firefox 11 13 มีนาคม 2555
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
25 th Sir Alex Ferguson
"It doesn't matter who leaves, the name of Manchester United does not leave."เซอร์ อเล็กซานเดอร์ แชปแมน "เฟอร์กี้" เฟอร์กูสัน อยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาครบ 25 ปี ในวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เฟอร์กี้ก้าวเข้ามาในรั้วโอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 1986 ซึ่งเป็นปีเดียวที่ผมเริ่มดูฟุตบอล เมื่อเฟอร์กี้หรือ "ป่า" อยู่กับทีมครบ 25 ปี ก็แสดงว่าผมดูบอลมา 25 ปีเช่นกัน (แต่ผมแก่กว่าไม่กี่เดือน) เพราะปีนั้นเองมีนักเตะในคนหนึ่งทำให้ผมรู้จักกับโลกของฟุตบอล ดีเอโก้ อาร์มันโด มาราโดนา ผมยังจำเสื้อทีมอาร์เจนตินา ที่เป็นลายฟ้า-ขาว แต่มีพ่อค้าหัวใสมาแปลงเป็นสีอื่นๆ เช่น เหลือง-ขาว แดง-ขาว แม้แต่ ชมพู-ขาว โดยด้านหลังสกรีนชื่อ มาราโดนา พร้อมกับเบอร์ 10 แม้ว่าสมัยนั้นเอง การดูฟุตบอลต่างประเทศยากกว่าสมัยนี้มาก แต่ผมกลับรู้สึกว่าจดจำเกมส์ต่างๆ ได้ชัดเจนกว่าสมัยนี้ อาจเป็นเพราะสมัยนี้มันมีเยอะ เรียกได้ว่ามีฟุตบอลดูได้ทุกวัน จำได้ว่าเมื่อก่อนกว่าจะได้ดูแต่ละทียากสุดๆ ส่วนใหญ่อาศัยรายการเจาะสนามของ ย.โย่ง ผู้ล่วงลับ ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่นำเอาไฮไลท์เกมส์ต่างๆ มาให้ชม กว่าจะได้ชมแมตช์ที่เราอยากดูมาให้ชมสักเกมนี่ยากมาก ที่เยอะที่สุดก็น่าจะเป็นฟุตบอลโลก ป๋าเฟอร์กี้พาทีมสกอตแลนด์ไปฟุตบอลโลกด้วย แต่ผมกลับจำไม่ได้ แล้วยิ่งสมัยนั้นยังเป็นยุคทองของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลด้วยแล้ว สำหรับกองเชียร์แมนยูและกองแช่งหงส์นี่ เหมือนเราเป็นลูกเมียน้อยเลย
แต่ป๋าก็นำความสุขมาให้ผมเสมอกว่าจะได้เป็นแชมป์ก็ผ่านมา เกือบห้าปี แต่หลังจากนั้นป๋าก็นำความสำเร็จมาสู่ทีมเรื่อยๆ เรียกได้ว่าผมก็เติบโตไปพร้อมกับป๋าเหมือนกัน จนวันนี้ครบหนึ่งในสี่ของศตวรรษแล้วที่ป๋าคุมทีมมา กับความสำเร็จนานัปการ พร้อมกับสร้างทีมมาหลายรุ่น จนบางคนผันตัวไปเป็นผู้จัดการทีมแล้วยังมาแข่งกับป๋าได้อีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พฤศจิกายน 25554) ทีมก็ตอบแทนป๋าด้วยการเปลี่ยนชื่ออัฒจันท์ฝั่งเหนือเป็น "Sir Alex Ferguson Stand" ซึ่งผมว่ามันการตอบแทนที่มีความหมายกับป๋ามาก เพราะในประวัติศาสตร์ 101 ปีของทีมไม่เคยมีใครได้รับเกียรติอย่างนี้ คือเป็นคนแรกที่ได้รับเกียรติให้ใช้ชื่อเป็นชื่ออัฒจันท์ นอกจากนี้ยังมีเว็บที่ให้แฟนๆ ได้ส่งข้อความหรือความรู้สึกถึงป๋าได้ที่ http://www.saf25.com ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของทีมไหนก็สามารถส่งความรู้สึกของคุณบอกกับเขาคนนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554
Songbird
"ความพยายามอยู่ที่ไหน ความลำบากสำเร็จอยู่ที่นั่น" แม้ว่าผมจะหา Exaile มาเป็นตัวแทนของ songbird เรียบร้อยแล้ว จริงๆ แล้วก็ประทับใจพอสมควร แต่มันเหมือนกับว่ามันไม่ได้ดั่งใจ เลยขออีกฮึดหนึ่ง แล้วในที่สุด ว้าว ว้าว ว้าว !!! Internet ก็พาผมไปพบกับเพื่อนเก่า ที่ชื่อ songbird จนได้
ผมมีเงื่อนไขสองอย่างในการหา คือ
1. ผมเป็นมือใหม่สำหรับ Ubuntu เพราะฉะนั้นให้ไปทำอะไรที่ยากๆ คงลำบากแน่นอน อาทิ การ make > make install อะไรเทือกนี้
2. ผมใช้ Ubuntu Lucid (10.04 LTS) 64 คืออยากใช้เวอร์ชั่น 64 bit นี้มาก แม้ตอนแรกจะกลัวมันยุ่งยาก แม้จะต้องยอมเป็นคนส่วนน้อยสักหน่อย เพราะคนอื่นๆ ใช้แบบ 32 bit มากกว่า อันนี้ต้องยอมรับ ซึ่งการหาของที่ยากอยู่แล้ว ก็ยากยิ่งขึ้น
วิธีแก้ปัญหา
1. จากเงื่อนไขข้างต้นก็ลองใช้ apt ก่อนเลย
ปรากฎว่าไม่ได้ผล เหตุผลง่ายๆ คือมันไม่ support แล้ว แต่ยังดื้ออยู่ ก็ไปดูที่ Ubuntu Software Center ก็ไม่เจอ (แน่อยู่แล้ว)
2. ขอความช่วยเหลือจากอากู๋ ที่แรกที่แนะนำก็คือ http://getdeb.net แต่เมื่อมันไม่ support แล้วก็ไม่ได้แน่ๆ (อยู่แล้ว) จนมาเจอที่นี่ครับ http://pkgs.org/download/songbird เกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว ปรากฎว่าเวิร์คครับ ผมจับเจ้านกมาร้องเพลงในเครื่องผมจนได้ และที่สำคัญ add-on ต่างๆ สามารถอัพเดตผ่านตัวโปรแกรมได้เลย
ผมมีเงื่อนไขสองอย่างในการหา คือ
1. ผมเป็นมือใหม่สำหรับ Ubuntu เพราะฉะนั้นให้ไปทำอะไรที่ยากๆ คงลำบากแน่นอน อาทิ การ make > make install อะไรเทือกนี้
2. ผมใช้ Ubuntu Lucid (10.04 LTS) 64 คืออยากใช้เวอร์ชั่น 64 bit นี้มาก แม้ตอนแรกจะกลัวมันยุ่งยาก แม้จะต้องยอมเป็นคนส่วนน้อยสักหน่อย เพราะคนอื่นๆ ใช้แบบ 32 bit มากกว่า อันนี้ต้องยอมรับ ซึ่งการหาของที่ยากอยู่แล้ว ก็ยากยิ่งขึ้น
วิธีแก้ปัญหา
1. จากเงื่อนไขข้างต้นก็ลองใช้ apt ก่อนเลย
sudo apt-get install songbird
ปรากฎว่าไม่ได้ผล เหตุผลง่ายๆ คือมันไม่ support แล้ว แต่ยังดื้ออยู่ ก็ไปดูที่ Ubuntu Software Center ก็ไม่เจอ (แน่อยู่แล้ว)
2. ขอความช่วยเหลือจากอากู๋ ที่แรกที่แนะนำก็คือ http://getdeb.net แต่เมื่อมันไม่ support แล้วก็ไม่ได้แน่ๆ (อยู่แล้ว) จนมาเจอที่นี่ครับ http://pkgs.org/download/songbird เกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว ปรากฎว่าเวิร์คครับ ผมจับเจ้านกมาร้องเพลงในเครื่องผมจนได้ และที่สำคัญ add-on ต่างๆ สามารถอัพเดตผ่านตัวโปรแกรมได้เลย
ความรู้เกี่ยวกับแผนที่เบื้องต้น 2
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภูมิศาสตร์โลก
9. เส้นโครงแผนที่ คือ ระบบของเส้นที่สร้างขึ้นในพื้นที่แบนราบ เพื่อแสดงลักษณะของเส้นขนานและเส้นเมริเดียนอันเป็นผลจากแบบและวิธีการสร้าง รูปทรงเรขาคณิต และการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ในการถ่ายทอดเส้นเหล่านั้นจากผิวโลก ซึ่งเป็นทรงกลมลงบนพื้นที่แบนราบ ซึ่งวิธีการนั้น เรียกว่าการฉายแผนที่ โดยการใช้พื้นผิวรูปทรงเรขาคณิต 3 ชนิด คือ รูประนาบ (Plane) รูปทรงกรวย (Cone) และรูปทรงกระบอก (Cylinder) ในการฉายเส้นโครงแผนที่
10. โปรเจคชั่นของแผนที่ คือ ระบบการเขียนแนวเส้นที่แทนเส้นเมริเดียนและเส้นขนาน (Meridians and Parallels) ของพิภพทั้งหมด หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งลงบนพื้นแบนราบตามมาตราส่วน
11. ทิศเหนือจริง (True North) คือแนวที่นับจากตำบลใดๆ บนพิภพไปยังขั้วโลกเหนือจะเห็นว่าเส้น Longitude ทุกเส้น ก็คือแนวทิศเหนือจริง ตามปกติใช้สัญลักษน์รูปดาวแทนทิศเหนือจริง โดยทั่วโปจะไม่ใช้ทิศเหนือ จริงในการอ่านแผนที่
12. ทิศเหนือกริด (แผนที่) (Grid North) คือแนวเส้นกริดใต้-เหนือบนแผนที่ ใช้สัญลักษณ์ GN ทิศเหนือกริดให้ประโยชน์ในการหาค่าพิกัดบนเเผนที่และมุมภาคของทิ
13. ทิศเหนือแม่เหล็ก ( Magnetic North) คือแนวตามปลายลูกศรที่แสดงทิศเหนือของเข็มทิศ. ซึ่งโดยปกติเข็มทิศจะชี้ไปทางขั้วเหนือของแม่เหล็กโลกเสมอ ในแผนที่จะใช้สัญลักษณ์รูปลูกศรครึ่งซีก ทิศเหนือแม่เหล็กจะใช้ประโยชน์ในการหาทิศทางเมื่ออยู่ในภูมิประเทศจริง
14. อะซิมุท ( Azimuth)
เป็นวิธีการที่คิดขึ้นมาเพื่อใช้ในการบอกทิศทาง คือวัดขนาดของมุมทางราบที่วัดจากแนวทิศเหนือหลักเวียนตามเข็มนาฬิกามาบรรจบ กับแนวเป้าหมายที่ต้องการ มุมทิศอะซิมุทนี้จะมีค่าตั้งแต่ 0 - 360 องศา และเมื่อวัดมุมจากเส้นฐานทิศเหนือหลักชนิดใด ก็จะเรียกตามทิศเหนือหลักนั้น เช่น อะซิมุทจริง, อะซิมุทกริด, อะซิมุทแม่เหล็ก
ลักษณะ
รูปทรงสัณฐานของโลกมีลักษณะกลมแบบ Speriod
แต่ในทางปฎิบัติเราถือว่าโลกมีลักษณะทรงกลมทางเรขาคณิต
ดังนั้นระบบพิกัดภูมิศาสตร์ของโลกจึงมีส่วนประกอบต่อไปนี้
1. เส้นวงกลมใหญ่ (Great Circle) คือ เส้นรอบวงที่เราลากผ่านไปรอบผิวโลกโดยผ่านที่ศูนย์กลางวงกลม แล้วบรรจบมาเป็นวงกลม เรียกว่า"วงกลมใหญ่" ตัวอย่าง เช่น เส้นศูนย์สูตร เส้นเมริเดียนที่อยู่ตรงข้ามกัน เส้นแบ่งเขตมืด-สว่าง
2. เส้นวงกลมเล็ก (Small Circle) คือ เส้นรอบวงที่เราลากผ่านไปรอบผิวโลกโดยไม่ผ่านที่ศูนย์กลางวงกลม แล้วบรรจบมาเป็นวงกลม ตัวอย่าง เช่น เส้นขนาน
3. เส้นศูนย์สูตร (Equator) คือ เส้นที่ลากผ่านศูนย์กลางวงกลมในแนวตะวันออกและตะวันตก โดยจุดเริ่มต้นของเส้นที่ 0 องศาทางตะวันออก ซึ่งเป็นวงกลมใหญ่วงหนึ่งเช่นกัน
4. เส้นเมริเดียน (Meridians) คือ เส้นที่ลากผ่านศูนย์กลางวงกลมในแนวเหนือและใต้ โดยลากเชื่อมระหว่างจุดขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้
5. เส้นเมริเดียน ปฐม (Prime Meridian) คือ เส้นเมริเดียนที่ลากผ่านหอดูดาวที่ตำบลกรีนิช (Greenwich) ประเทศอังกฤษ ใช้เป็นเส้นหลักในการกำหนดค่าลองกิจูด ซึ่งถูกกำหนดให้มีลองกิจูดเป็นศูนย์ ถ้าถือตามข้อตกลงนานาชาติ ค.ศ. 1884 จะเรียกว่า เส้นเมริเดียนกรีนิช ก็ได้
6. เส้นขนาน (Parallels) คือ เส้นที่ลากขนานกับเส้นศูนย์สูตร หรือ วงกลมเล็ก
7. ละติจูด (Latitude) หรือ เส้นรุ้ง คือ ระยะทางเชิงมุมที่วัดไปทางเหนือและใต้ของเส้นศูนย์สูตร นับจาก 0 องศาไปทางเหนือและทางใต้ 90 องศา
8. ลองกิจูด (Longitude) หรือ เส้นแวง คือ ระยะทางเชิงมุมที่วัดจากเมริเดียนปฐมซึ่งถือที่ 0 องศา ตำบลกรีนิชเป็นหลัก วัดไปทางตะวันออก 180 องศาตะวันออก และทางตะวันตก 180 องศาตะวันตก
"รุ้งตะแคง แวงตั้ง" เป็นคำเรียกขานเพื่อให้ง่ายต่อการจำว่า เส้นละติจูดและลองกิจูดคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
1. เส้นวงกลมใหญ่ (Great Circle) คือ เส้นรอบวงที่เราลากผ่านไปรอบผิวโลกโดยผ่านที่ศูนย์กลางวงกลม แล้วบรรจบมาเป็นวงกลม เรียกว่า"วงกลมใหญ่" ตัวอย่าง เช่น เส้นศูนย์สูตร เส้นเมริเดียนที่อยู่ตรงข้ามกัน เส้นแบ่งเขตมืด-สว่าง
2. เส้นวงกลมเล็ก (Small Circle) คือ เส้นรอบวงที่เราลากผ่านไปรอบผิวโลกโดยไม่ผ่านที่ศูนย์กลางวงกลม แล้วบรรจบมาเป็นวงกลม ตัวอย่าง เช่น เส้นขนาน
3. เส้นศูนย์สูตร (Equator) คือ เส้นที่ลากผ่านศูนย์กลางวงกลมในแนวตะวันออกและตะวันตก โดยจุดเริ่มต้นของเส้นที่ 0 องศาทางตะวันออก ซึ่งเป็นวงกลมใหญ่วงหนึ่งเช่นกัน
4. เส้นเมริเดียน (Meridians) คือ เส้นที่ลากผ่านศูนย์กลางวงกลมในแนวเหนือและใต้ โดยลากเชื่อมระหว่างจุดขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้
5. เส้นเมริเดียน ปฐม (Prime Meridian) คือ เส้นเมริเดียนที่ลากผ่านหอดูดาวที่ตำบลกรีนิช (Greenwich) ประเทศอังกฤษ ใช้เป็นเส้นหลักในการกำหนดค่าลองกิจูด ซึ่งถูกกำหนดให้มีลองกิจูดเป็นศูนย์ ถ้าถือตามข้อตกลงนานาชาติ ค.ศ. 1884 จะเรียกว่า เส้นเมริเดียนกรีนิช ก็ได้
6. เส้นขนาน (Parallels) คือ เส้นที่ลากขนานกับเส้นศูนย์สูตร หรือ วงกลมเล็ก
7. ละติจูด (Latitude) หรือ เส้นรุ้ง คือ ระยะทางเชิงมุมที่วัดไปทางเหนือและใต้ของเส้นศูนย์สูตร นับจาก 0 องศาไปทางเหนือและทางใต้ 90 องศา
8. ลองกิจูด (Longitude) หรือ เส้นแวง คือ ระยะทางเชิงมุมที่วัดจากเมริเดียนปฐมซึ่งถือที่ 0 องศา ตำบลกรีนิชเป็นหลัก วัดไปทางตะวันออก 180 องศาตะวันออก และทางตะวันตก 180 องศาตะวันตก
"รุ้งตะแคง แวงตั้ง" เป็นคำเรียกขานเพื่อให้ง่ายต่อการจำว่า เส้นละติจูดและลองกิจูดคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
9. เส้นโครงแผนที่ คือ ระบบของเส้นที่สร้างขึ้นในพื้นที่แบนราบ เพื่อแสดงลักษณะของเส้นขนานและเส้นเมริเดียนอันเป็นผลจากแบบและวิธีการสร้าง รูปทรงเรขาคณิต และการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ในการถ่ายทอดเส้นเหล่านั้นจากผิวโลก ซึ่งเป็นทรงกลมลงบนพื้นที่แบนราบ ซึ่งวิธีการนั้น เรียกว่าการฉายแผนที่ โดยการใช้พื้นผิวรูปทรงเรขาคณิต 3 ชนิด คือ รูประนาบ (Plane) รูปทรงกรวย (Cone) และรูปทรงกระบอก (Cylinder) ในการฉายเส้นโครงแผนที่
10. โปรเจคชั่นของแผนที่ คือ ระบบการเขียนแนวเส้นที่แทนเส้นเมริเดียนและเส้นขนาน (Meridians and Parallels) ของพิภพทั้งหมด หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งลงบนพื้นแบนราบตามมาตราส่วน
11. ทิศเหนือจริง (True North) คือแนวที่นับจากตำบลใดๆ บนพิภพไปยังขั้วโลกเหนือจะเห็นว่าเส้น Longitude ทุกเส้น ก็คือแนวทิศเหนือจริง ตามปกติใช้สัญลักษน์รูปดาวแทนทิศเหนือจริง โดยทั่วโปจะไม่ใช้ทิศเหนือ จริงในการอ่านแผนที่
12. ทิศเหนือกริด (แผนที่) (Grid North) คือแนวเส้นกริดใต้-เหนือบนแผนที่ ใช้สัญลักษณ์ GN ทิศเหนือกริดให้ประโยชน์ในการหาค่าพิกัดบนเเผนที่และมุมภาคของทิ
13. ทิศเหนือแม่เหล็ก ( Magnetic North) คือแนวตามปลายลูกศรที่แสดงทิศเหนือของเข็มทิศ. ซึ่งโดยปกติเข็มทิศจะชี้ไปทางขั้วเหนือของแม่เหล็กโลกเสมอ ในแผนที่จะใช้สัญลักษณ์รูปลูกศรครึ่งซีก ทิศเหนือแม่เหล็กจะใช้ประโยชน์ในการหาทิศทางเมื่ออยู่ในภูมิประเทศจริง
เป็นวิธีการที่คิดขึ้นมาเพื่อใช้ในการบอกทิศทาง คือวัดขนาดของมุมทางราบที่วัดจากแนวทิศเหนือหลักเวียนตามเข็มนาฬิกามาบรรจบ กับแนวเป้าหมายที่ต้องการ มุมทิศอะซิมุทนี้จะมีค่าตั้งแต่ 0 - 360 องศา และเมื่อวัดมุมจากเส้นฐานทิศเหนือหลักชนิดใด ก็จะเรียกตามทิศเหนือหลักนั้น เช่น อะซิมุทจริง, อะซิมุทกริด, อะซิมุทแม่เหล็ก
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เพลง กับ ubuntu
หลังจากปรับแต่ง Ubuntu ได้พักใหญ่ก็ถึงเวลาหาความสุนทรีย์ให้กับตัวเองซะที ตอนที่ใช้ windows นี่ผมเริ่มจาก winamp ก่อนเลย ตามประสาผู้นิยมพันธ์ทิพย์ที่ดี เพราะปกติ winamp นี่น่าจะเป็นโปรแกรมสามัญประจำเครื่อง จนผมมารู้จัก foobar และ songbird ก็ไล่ winamp ออกจากเครื่องไปเรียบร้อย ซึ่งผมก็ใช้ทั้งสองตัว
foobar นี่ได้เปรียบเรื่องความเร็วกับการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า songbird มาก แต่ตัว songbird ก็ได้เปรียบเรื่องการมี browser ในตัว เพราะพัฒนาจากทีมงาน firefox ทำให้ผมได้ lyrics (เนื้อเพลง) แทบครบทุกเพลง และสามารถดูได้โดยไม่ต้องต่อ internet ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะงานที่ผมทำในประเทศพม่า (ณ เวลานั้น) ไม่อนุญาตให้ผมใช้งานอินเตอร์เน็ตได้บ่อยนัก อย่าว่าแต่ internet เลยไฟฟ้ายังต้องใช้เป็นเวลา
หลังจากบอกลา windows ไปเรียบร้อย แล้วเปลี่ยนมาเป็น ubuntu เพียวๆ แล้วก็ยังคิดถึง songbird อยู่ แล้วก็มาเจอข่าวร้าย คือ songbird ไม่ support ubuntu ซะแล้ว (http://www.omgubuntu.co.uk/2010/04/songbird-drops-linux-support-why-this-doesnt-matter/)
ทางเลือกที่มีก็คือ banshee หรือ rhythmbox ซึ่งสองตัวนี้ก็ดีมีลูกเล่นเยอะ แต่สิ่งที่ผมต้องการคือเนื้อเพลงแบบฝัง ใน ID3 คือไม่ต้องต่อเน็ตก็มี lyrics ให้ได้
ถึงแม้ตอนนี้ internet ไม่ใช่เรื่องลำบากอีกต่อไปแล้ว แต่ความรู้สึกของผมว่าการที่เรามีเนื้อเพลงฝังไปใน ID3 คือพูดง่ายๆ รวมไปในไฟล์เพลงแล้วทำไมผมถึงไม่สามารถดูได้จากโปแกรมที่เราใช้ ทำไมเราต้องไปหาจากเว็บเนื้อเพลงด้วย พอดีไปเจอ บทความนี้ http://www.ankurb.info/2008/06/10/why-i-hate-rhythmbox/ โดนใจผมมาก ใน comment ข้างล่างยังแนะนำให้ใช้โปรแกรม Exaile โดยบอกว่าเป็นโปรแกรมคล้ายกับ Amarok ของฝั่ง KDE
Exaile ใช้โลโก้ เป็นวงกลมสีเขียวอ่อน และมีสัญลักษณ์การเล่นเพลง (สามเหลี่ยมหันไปทางขวา ~ ปุ่มเล่นเพลง) ส่วนหน้าตาและการใช้งานส่วนอื่น น่าจะคล้ายๆโปรแกรมตัวอื่นๆ ข้างต้น แม้ว่าความสามารถโดยรวมยังสู้ขาใหญ่ทั้งหลายไม่ได้ แต่ที่ประทับใจมากๆ คือ การแสดง embed lyrics ตรงกับความต้องการ ที่อยากฟังเพลงเมื่อไรแม้ไม่มี internet ก็ยังมีเนื้อเพลงมาให้ดูได้ ซึ่งช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ mother tongue ของเราได้ โดยความเห็นส่วนตัวแล้วการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร พื้นฐานสำคัญในทัศนะของข้าพเจ้า (ยืมคำเก๋ๆ ของเฮียมาโนช พุฒตาล มาซะหน่อย) ได้มาจากการฟังเพลงนี่แหละ สรุปว่า ณ ปัจจุบัน Exaile เป็นตัวเลือกแรกครับ
หลังจากเลือกโปรแกรมที่ถูกใจแล้ว ก็มาถึงการปรับเสียง ซึ่งโปรแกรมที่ว่ามาข้างต้นนี้มี equalizer มาให้อยู่แล้วแต่ผมได้ลอง Pulse Audio โดย
ข้อมูลจาก snappytux.com ผมว่าเสียงที่ได้ดีกว่าตัว equalizer ของโปรแกรมนะนอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง เพิ่มเติมจาก preset ที่โปรแกรมมีมาให้
foobar นี่ได้เปรียบเรื่องความเร็วกับการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า songbird มาก แต่ตัว songbird ก็ได้เปรียบเรื่องการมี browser ในตัว เพราะพัฒนาจากทีมงาน firefox ทำให้ผมได้ lyrics (เนื้อเพลง) แทบครบทุกเพลง และสามารถดูได้โดยไม่ต้องต่อ internet ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะงานที่ผมทำในประเทศพม่า (ณ เวลานั้น) ไม่อนุญาตให้ผมใช้งานอินเตอร์เน็ตได้บ่อยนัก อย่าว่าแต่ internet เลยไฟฟ้ายังต้องใช้เป็นเวลา
หลังจากบอกลา windows ไปเรียบร้อย แล้วเปลี่ยนมาเป็น ubuntu เพียวๆ แล้วก็ยังคิดถึง songbird อยู่ แล้วก็มาเจอข่าวร้าย คือ songbird ไม่ support ubuntu ซะแล้ว (http://www.omgubuntu.co.uk/2010/04/songbird-drops-linux-support-why-this-doesnt-matter/)
ทางเลือกที่มีก็คือ banshee หรือ rhythmbox ซึ่งสองตัวนี้ก็ดีมีลูกเล่นเยอะ แต่สิ่งที่ผมต้องการคือเนื้อเพลงแบบฝัง ใน ID3 คือไม่ต้องต่อเน็ตก็มี lyrics ให้ได้
ถึงแม้ตอนนี้ internet ไม่ใช่เรื่องลำบากอีกต่อไปแล้ว แต่ความรู้สึกของผมว่าการที่เรามีเนื้อเพลงฝังไปใน ID3 คือพูดง่ายๆ รวมไปในไฟล์เพลงแล้วทำไมผมถึงไม่สามารถดูได้จากโปแกรมที่เราใช้ ทำไมเราต้องไปหาจากเว็บเนื้อเพลงด้วย พอดีไปเจอ บทความนี้ http://www.ankurb.info/2008/06/10/why-i-hate-rhythmbox/ โดนใจผมมาก ใน comment ข้างล่างยังแนะนำให้ใช้โปรแกรม Exaile โดยบอกว่าเป็นโปรแกรมคล้ายกับ Amarok ของฝั่ง KDE
Exaile ใช้โลโก้ เป็นวงกลมสีเขียวอ่อน และมีสัญลักษณ์การเล่นเพลง (สามเหลี่ยมหันไปทางขวา ~ ปุ่มเล่นเพลง) ส่วนหน้าตาและการใช้งานส่วนอื่น น่าจะคล้ายๆโปรแกรมตัวอื่นๆ ข้างต้น แม้ว่าความสามารถโดยรวมยังสู้ขาใหญ่ทั้งหลายไม่ได้ แต่ที่ประทับใจมากๆ คือ การแสดง embed lyrics ตรงกับความต้องการ ที่อยากฟังเพลงเมื่อไรแม้ไม่มี internet ก็ยังมีเนื้อเพลงมาให้ดูได้ ซึ่งช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ mother tongue ของเราได้ โดยความเห็นส่วนตัวแล้วการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร พื้นฐานสำคัญในทัศนะของข้าพเจ้า (ยืมคำเก๋ๆ ของเฮียมาโนช พุฒตาล มาซะหน่อย) ได้มาจากการฟังเพลงนี่แหละ สรุปว่า ณ ปัจจุบัน Exaile เป็นตัวเลือกแรกครับ
หลังจากเลือกโปรแกรมที่ถูกใจแล้ว ก็มาถึงการปรับเสียง ซึ่งโปรแกรมที่ว่ามาข้างต้นนี้มี equalizer มาให้อยู่แล้วแต่ผมได้ลอง Pulse Audio โดย
sudo add-apt-repository ppa:psyke83/ppa
sudo aptitude update
sudo aptitude install pulseaudio-equalizer
ข้อมูลจาก snappytux.com ผมว่าเสียงที่ได้ดีกว่าตัว equalizer ของโปรแกรมนะนอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง เพิ่มเติมจาก preset ที่โปรแกรมมีมาให้
ป้ายกำกับ:
entertainment,
ubuntu
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ความรู้เกี่ยวกับแผนที่เบื้องต้น 1
ข้อมูลเรื่องแผนที่นี้ได้มาจาก http://www.thaigoogleearth.com ซึ่งขณะที่เขียนบล็อกนี้เว็บได้ปิดปรับปรุง
แผนที่เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้เป็นเครื่องช่วยในการ ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แผนที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ การเรียนการสอน การประกอบอาชีพสาขาต่างๆ และการนำไปใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น ภูมิศาสตร์ การสำรวจ ธรณีวิทยา การเกษตร ป่าไม้ การคมนาคมขนส่ง กิจการทหารตำรวจ ศิลปวัฒนธรรม สาขาต่างๆเหล่านี้ จะต้องอาศัยแผนที่เป็นเครื่องมือชี้นำเสมอ
ในสมัยเริ่มแรกการทำแผนที่จะอาศัยข้อมูลการสำรวจภาคพื้นดินเท่านั้น แต่ต่อมามีเทคโนโลยีการสำรวจจากระยะไกล (Remote Sensing) เกิดขึ้น จึงมีการนำเอาภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทียมมาช่วยในการทำแผนที่ เพราะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้องกว่าการสำรวจภาคพื้นดินเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟแวร์ (Software) มีมากขึ้น จึงมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาผลิตแผนที่ ซึ่งทำได้สะดวกรวดเร็ว และถูกต้องมากกว่าเดิมที่ทำด้วยมือ
คอมพิวเตอร์ มีวิธีการแสดงผลภาพออกมาให้เหมือนจริง หรือทำเสมือนมองเห็นได้ในสภาพเป็นจริง(Visualization) เช่น แสดงความลึก สูง ต่ำ นูน รูปแบบภาพสามมิติ เป็นลักษณะที่ง่ายต่อการสื่อความหมายมากขึ้นแผนที่มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น แผนที่ภูมิประเทศ แผนที่ภาพถ่าย แผนที่เฉพาะเรื่องต่าง ๆ การผลิตแผนที่แบบใด มีความละเอียดถูกต้องระดับใด ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของงานที่จะใช้ นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานด้วยว่ามีขีดความสามารถในการผลิตแผนที่ได้เอง หรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานในประเทศไทยไม่ว่าทั้งของรัฐบาลหรือเอกชน สามารถผลิตแผนที่ขึ้นมาใช้เองในหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัยต่าง ๆ บริษัทเอกชนต่าง ๆ
งานด้าน รีโมทเซนซิ่งและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Remote Sensing and Geographic Information System) ก็มีเป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการแสดงผลออกมาในรูปแแบบของแผนที่ไม่ว่า จะเป็นแผนที่ในรูปแบบแผ่นกระดาษ หรือแผนที่ในรูปแบบดิจิตอล (Digital) ที่สามารถแสดงผลในคอมพิวเตอร์ ได้ การแสดงผลหรือการผลิตแผนที่ออกมาจะต้องมีหลักในการทำแผนที่หลายอย่าง เช่น การอ้างอิงระบบพิกัดของแผนที่ให้ถูกต้องตรงกับสภาพความเป็นจริงบนพื้นโลก กำหนดทิศทาง มาตราส่วน การแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้สื่อออกมาสอดคล้องกับความเป็นจริง ในประเทศไทยเรานิยมใช้แผนที่ที่ผลิตโดยกรมแผนที่ทหารนำมาใช้งาน และนำมาเป็นแผนที่อ้างอิงประกอบ หรือที่เรียกว่าแผนที่ฐาน (Base Map)
เนื่อง จากถือว่าเป็นแผนที่มาตรฐานที่มีความถูกต้องสูง โดยแบ่งเป็น 2 มาตราส่วน คือ มาตราส่วนเล็ก 1:250,000 หรือแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด 1501 S มีระบบพิกัดเป็นระบบพิกัดภูมิศาสตร์ ซึ่งประชาชนหรือผู้สนใจทั่วไปสามารถจะซื้อมาใช้ได้ และมาตราส่วนใหญ่ 1:50,000 หรือแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด L7017 มีระบบพิกัดเป็นระบบพิกัดภูมิศาสตร์ และระบบพิกัดกริด UTM ใช้ได้เฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น ในบทความนี้จะเน้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด L 7017 มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งเป็นแผนที่ที่มีความละเอียดค่อนข้างสูงและนิยมนำมาใช้งานในหน่วย งานราชการทั่วไป รวมถึงเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น
รูปทรงสัณฐานของโลก โลก (Earth) โลกของเรามีรูปร่างลักษณะเป็นรูปทรงรี (Oblate Ellipsoid) คือมีลักษณะป่องตรงกลาง ขั้วเหนือ-ใต้ แบนเล็กน้อย แต่พื้นผิวโลกที่แท้จริงมีลักษณะขรุขระ สูง ต่ำ ไม่ราบเรียบ สม่ำเสมอ พื้นผิวโลกจะมีพื้นที่ประมาณ 509,450,00 ตารางกิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ศูนย์สูตรยาว 12,757 กิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางจากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ 12,714 กิโลเมตร จะเห็นว่าระยะทางระหว่างแนวนอน (เส้นสูนย์สูตร) ยาวกว่าแนวตั้ง (ขั้วโลกเหนือ -ใต้) จากลักษณะดังกล่าวนี้ ทำให้ไม่สามารถใช้รูปทรงเรขาคณิตอย่างง่ายแสดงขนาด และรูปร่างของโลกได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นเพื่อความสะดวกต่อการพิจารณารูปทรงสัณฐานของโลก และในกิจการของแผนที่ จึงมีการใช้รูปทรงสัณฐานของโลกอยู่ 3 แบบ คือ ทรงกลม (Spheroid) ทรงรี (Ellipsoid) และ ยีออยด์ (Geoid)
ทรงกลม หรือ สเฟียรอยด์ เป็นรูปทรงที่ง่ายที่สุด จึงเหมาะเป็นสัณฐานของโลกโดยประมาณ ใช้กับแผนที่มาตราส่วนเล็กที่มีขอบเขตกว้างขวาง เช่น แผนที่โลก แผนที่ทวีป หรือ แผนที่อื่นๆที่ไม่ต้องการความละเอียดถูกต้องสูง
ทรงรี หรือ อิลิปซอยด์ โดยทั่วไป คือ รูปที่แตกต่างกับรูปทรงกลมเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับสัณฐานจริงโลกมาก จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นพื้นผิวการรังวัด และการแผนที่ที่ต้องการความละเอียดถูกต้องสูง เช่น แผนที่ระดับชุมชนเมือง แผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วนใหญ่ทั่วไป แผนที่นำร่อง เป็นต้น
ยีออยด์ เป็นรูปทรงที่เหมือนกับสัณฐานจริงของโลกมากที่สุด เกิดจากการสมมุติระดับน้ำในมหาสมุทรขณะทรงตัวอยู่นิ่ง เชื่อมโยงให้ทะลุไปถึงกันทั่วโลก จะเกิดเป็นพื้นผิวซึ่งไม่ราบเรียบตลอด มีบางส่วนที่ยุบต่ำลง บางส่วนสูงขึ้นขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและแรงโน้มถ่วงของโลก ทุก ๆ แนวดิ่ง (Plumb Line) จะตั้งฉากกับยีออยด์ ยีออยด์มีบทบาทสำคัญในงานรังวัดชั้นสูง (Geodesy) แต่กลับไม่มีบทบาทโดยตรงกับวิชาการแผนที่ นอกจากจะใช้ในการคำนวณแผนที่ประกอบกับรูปทรงรี
แผนที่เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้เป็นเครื่องช่วยในการ ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แผนที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ การเรียนการสอน การประกอบอาชีพสาขาต่างๆ และการนำไปใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น ภูมิศาสตร์ การสำรวจ ธรณีวิทยา การเกษตร ป่าไม้ การคมนาคมขนส่ง กิจการทหารตำรวจ ศิลปวัฒนธรรม สาขาต่างๆเหล่านี้ จะต้องอาศัยแผนที่เป็นเครื่องมือชี้นำเสมอ
ในสมัยเริ่มแรกการทำแผนที่จะอาศัยข้อมูลการสำรวจภาคพื้นดินเท่านั้น แต่ต่อมามีเทคโนโลยีการสำรวจจากระยะไกล (Remote Sensing) เกิดขึ้น จึงมีการนำเอาภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายจากดาวเทียมมาช่วยในการทำแผนที่ เพราะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้องกว่าการสำรวจภาคพื้นดินเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟแวร์ (Software) มีมากขึ้น จึงมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาผลิตแผนที่ ซึ่งทำได้สะดวกรวดเร็ว และถูกต้องมากกว่าเดิมที่ทำด้วยมือ
คอมพิวเตอร์ มีวิธีการแสดงผลภาพออกมาให้เหมือนจริง หรือทำเสมือนมองเห็นได้ในสภาพเป็นจริง(Visualization) เช่น แสดงความลึก สูง ต่ำ นูน รูปแบบภาพสามมิติ เป็นลักษณะที่ง่ายต่อการสื่อความหมายมากขึ้นแผนที่มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น แผนที่ภูมิประเทศ แผนที่ภาพถ่าย แผนที่เฉพาะเรื่องต่าง ๆ การผลิตแผนที่แบบใด มีความละเอียดถูกต้องระดับใด ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของงานที่จะใช้ นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานด้วยว่ามีขีดความสามารถในการผลิตแผนที่ได้เอง หรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานในประเทศไทยไม่ว่าทั้งของรัฐบาลหรือเอกชน สามารถผลิตแผนที่ขึ้นมาใช้เองในหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัยต่าง ๆ บริษัทเอกชนต่าง ๆ
งานด้าน รีโมทเซนซิ่งและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Remote Sensing and Geographic Information System) ก็มีเป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการแสดงผลออกมาในรูปแแบบของแผนที่ไม่ว่า จะเป็นแผนที่ในรูปแบบแผ่นกระดาษ หรือแผนที่ในรูปแบบดิจิตอล (Digital) ที่สามารถแสดงผลในคอมพิวเตอร์ ได้ การแสดงผลหรือการผลิตแผนที่ออกมาจะต้องมีหลักในการทำแผนที่หลายอย่าง เช่น การอ้างอิงระบบพิกัดของแผนที่ให้ถูกต้องตรงกับสภาพความเป็นจริงบนพื้นโลก กำหนดทิศทาง มาตราส่วน การแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้สื่อออกมาสอดคล้องกับความเป็นจริง ในประเทศไทยเรานิยมใช้แผนที่ที่ผลิตโดยกรมแผนที่ทหารนำมาใช้งาน และนำมาเป็นแผนที่อ้างอิงประกอบ หรือที่เรียกว่าแผนที่ฐาน (Base Map)
เนื่อง จากถือว่าเป็นแผนที่มาตรฐานที่มีความถูกต้องสูง โดยแบ่งเป็น 2 มาตราส่วน คือ มาตราส่วนเล็ก 1:250,000 หรือแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด 1501 S มีระบบพิกัดเป็นระบบพิกัดภูมิศาสตร์ ซึ่งประชาชนหรือผู้สนใจทั่วไปสามารถจะซื้อมาใช้ได้ และมาตราส่วนใหญ่ 1:50,000 หรือแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด L7017 มีระบบพิกัดเป็นระบบพิกัดภูมิศาสตร์ และระบบพิกัดกริด UTM ใช้ได้เฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น ในบทความนี้จะเน้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับแผนที่ภูมิประเทศลำดับชุด L 7017 มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งเป็นแผนที่ที่มีความละเอียดค่อนข้างสูงและนิยมนำมาใช้งานในหน่วย งานราชการทั่วไป รวมถึงเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น
รูปทรงสัณฐานของโลก โลก (Earth) โลกของเรามีรูปร่างลักษณะเป็นรูปทรงรี (Oblate Ellipsoid) คือมีลักษณะป่องตรงกลาง ขั้วเหนือ-ใต้ แบนเล็กน้อย แต่พื้นผิวโลกที่แท้จริงมีลักษณะขรุขระ สูง ต่ำ ไม่ราบเรียบ สม่ำเสมอ พื้นผิวโลกจะมีพื้นที่ประมาณ 509,450,00 ตารางกิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ศูนย์สูตรยาว 12,757 กิโลเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางจากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ 12,714 กิโลเมตร จะเห็นว่าระยะทางระหว่างแนวนอน (เส้นสูนย์สูตร) ยาวกว่าแนวตั้ง (ขั้วโลกเหนือ -ใต้) จากลักษณะดังกล่าวนี้ ทำให้ไม่สามารถใช้รูปทรงเรขาคณิตอย่างง่ายแสดงขนาด และรูปร่างของโลกได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นเพื่อความสะดวกต่อการพิจารณารูปทรงสัณฐานของโลก และในกิจการของแผนที่ จึงมีการใช้รูปทรงสัณฐานของโลกอยู่ 3 แบบ คือ ทรงกลม (Spheroid) ทรงรี (Ellipsoid) และ ยีออยด์ (Geoid)
ทรงกลม หรือ สเฟียรอยด์ เป็นรูปทรงที่ง่ายที่สุด จึงเหมาะเป็นสัณฐานของโลกโดยประมาณ ใช้กับแผนที่มาตราส่วนเล็กที่มีขอบเขตกว้างขวาง เช่น แผนที่โลก แผนที่ทวีป หรือ แผนที่อื่นๆที่ไม่ต้องการความละเอียดถูกต้องสูง
ทรงรี หรือ อิลิปซอยด์ โดยทั่วไป คือ รูปที่แตกต่างกับรูปทรงกลมเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับสัณฐานจริงโลกมาก จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นพื้นผิวการรังวัด และการแผนที่ที่ต้องการความละเอียดถูกต้องสูง เช่น แผนที่ระดับชุมชนเมือง แผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วนใหญ่ทั่วไป แผนที่นำร่อง เป็นต้น
ยีออยด์ เป็นรูปทรงที่เหมือนกับสัณฐานจริงของโลกมากที่สุด เกิดจากการสมมุติระดับน้ำในมหาสมุทรขณะทรงตัวอยู่นิ่ง เชื่อมโยงให้ทะลุไปถึงกันทั่วโลก จะเกิดเป็นพื้นผิวซึ่งไม่ราบเรียบตลอด มีบางส่วนที่ยุบต่ำลง บางส่วนสูงขึ้นขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและแรงโน้มถ่วงของโลก ทุก ๆ แนวดิ่ง (Plumb Line) จะตั้งฉากกับยีออยด์ ยีออยด์มีบทบาทสำคัญในงานรังวัดชั้นสูง (Geodesy) แต่กลับไม่มีบทบาทโดยตรงกับวิชาการแผนที่ นอกจากจะใช้ในการคำนวณแผนที่ประกอบกับรูปทรงรี
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554
Zekr - Quran Study Software For Linux
Zekr - Quran Study Software For Linux
น่าจะเป็นโปรแกรมกุรอานโปรแกรมเดียวที่รัน ใน linux หลังจากลงแล้ว ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว ที่สำคัญยังสามารถเลือกคำแปล (Translation) ได้หลายภาษา และแน่นอนมีภาษาไทยด้วย นอกจากนั้นก็ยังสามารถเปลี่ยนคนอ่าน (Reciter) ได้อีกด้วย ทั้งนี้สามารถเลือกได้ว่าเป็น แบบ offline หรือ online ด้วย แหม ใช้ได้เลย
สำหรับผู้ทีใช้ linux อยู่แล้ว แนะนำให้ลองใช้ดู รองรับ Linux ทุก แพลตฟอร์ม สนใจดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ http://zekr.org/quran/en/quran-for-linux
สำหรับผู้ทีใช้ linux อยู่แล้ว แนะนำให้ลองใช้ดู รองรับ Linux ทุก แพลตฟอร์ม สนใจดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ http://zekr.org/quran/en/quran-for-linux
ส่วนผู้ที่ใช้ Ubuntu อยู่ลงโปรแกรมง่ายๆ ดังนี้
พิมพ์ใน Terminal ได้เลย หรือก็อปปี้ข้อความข้างบนไปวางใน Terminal แล้วกด Enter
1. ผ่าน Ubuntu Software Center
- เมนู Applications > Ubuntu Software Center
- ค้นหาในช่อง แล้วค้นหาชื่อ zekr เลยครับ
- หลังจากนั้นก็ install ผมใช้ Ubuntu Lucid มีให้ install 2 รายการ คือ Zekr (ตัวโปรแกรม) และ Zekr Quran English translation
2. ใช้ apt
apt-get install zekr
พิมพ์ใน Terminal ได้เลย หรือก็อปปี้ข้อความข้างบนไปวางใน Terminal แล้วกด Enter
ชีวิต Open Source
ผมเริ่มรู้จักและใช้ Linux มาตั้งแต่ปี 2003 แต่เครื่อง pc หรือ notebook ที่ใช้ยังไม่มีเครื่องไหนที่เป็น linux แบบเต็มตัวสักอัน แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน notebook คชีพที่ใช้มานาน (ไม่มีปัญญาเปลี่ยนเครื่องใหม่) ต้องอำลา Windows ไป สาเหตุน่าจะมาจากติดไวรัสที่คุณภรรยาเอามาฝากจากที่ทำงาน เครื่องนั้นลงทั้ง ubuntu และ windows ด้วย พยายามหาทางกู้ชีพ windows อยู่นานก็ไม่กลับมาเสียที จนอ่อนใจ สงสัยมันจะไปพร้อมกัน Steve Jobs เลยตัดใจลง ubuntu เต็มๆ แม่มซะที
ใช้เวลาสองสามวันกว่าจะได้อันที่ถูกใจ จนมาลงตวที่ ubuntu 10.04 LTS 64 bit เพราะเครื่องผมมันเป็น AMD 64 bit แต่กลัวนั่นกลัวนี่ เลยไม่เคยกล้าลง แบบ 64 bit ได้แต่ลองแบบ 32 มาซะนาน ใครที่คิดว่าจะลง ubuntu ก่อนทำขอแนะนำเลยว่าควรหาที่ต่ออินเตอร์เน็ตไว้ก่อน ในกรณีของผมใช้เครื่อง compaq presario เมื่อลงแล้ว ubuntu มองไม่เหน driver ของ wireless ทำให้ต่อเน็ตไม่ได้ เปิดอีกเครื่องดูเพื่อหาวิธีลง driver แต่ไม่ประสบความสำเร็จ บางวิธีลงไปก็ไม่กล้าไปต่อ เพราะลง ubuntu มาหลายรอบกลัวเดี้ยง เลยใช้วิธีง่ายๆ คือเสียบสายแลน แล้วให้ไปอัพเดพ driver ซึ่งมีอยู่สองอย่างที่ ubuntu ไม่รู้จัก คือ wireless กับ modem เลยจัดการให้อัพเดตซะ จริงๆ แล้ว modem คงไม่ได้ใช้เท่าไหร่ แต่ where where is where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ - มุขโบราณ) จัดการซะทีเดียวก็ดี
ได้แนวทางจาก http://xtremediary.blogspot.com/2010/04/to-do-after-installing-ubuntu-1004.html แล้วปรับนู่นปรับนี่ไปเรื่อยๆ แต่ถือเป็นต้นแบบที่ดีมากๆ ในการไล่ลงโปรแกรม แต่ขอเพิ่มเติมหน่อย คือว่า วิธีการลงโปรแกรมตามตัวอย่างนี้ ใช้การลงแบบ command line คือ พิมพ์เอาที่ Terminal ซึ่งเราสามารถเลือก option ต่างๆ ในการลงโปรแกรมหรือการดาวน์โหลดได้ ผ่านคำสั่ง apt-get แล้วผมไปเจอ apt-fast ซึ่งรายละเอียดจาก Lords IT Tech ควรทำตามขั้นตอนเพื่อใช้ apt-fast มาแทน apt-get เพื่อประหยัดเวลา (มาก)
หลังจากนนก็มาจัดการ เกี่ยวกับ web development หน่อย ได้วิธีจากคุณ kiterminal ตามลิงค์ นี้เลยครับ การติดตั้ง Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin บน Ubuntu 8.10 ใช้กับ ubuntu 10 หรือ version ที่อัพเดตกว่าได้ ตราบใดที่ยังใช้ apache 2 อยู่
ส่วนวิธีการลง ubuntu คงมีคนแสดงวิธีไว้มากแล้ว แต่อันหนึ่งที่ผมชอบมากเลยคือของคุณ ศุภชัย อารมณ์คงประมาณเดียวกันเลย
ใช้เวลาสองสามวันกว่าจะได้อันที่ถูกใจ จนมาลงตวที่ ubuntu 10.04 LTS 64 bit เพราะเครื่องผมมันเป็น AMD 64 bit แต่กลัวนั่นกลัวนี่ เลยไม่เคยกล้าลง แบบ 64 bit ได้แต่ลองแบบ 32 มาซะนาน ใครที่คิดว่าจะลง ubuntu ก่อนทำขอแนะนำเลยว่าควรหาที่ต่ออินเตอร์เน็ตไว้ก่อน ในกรณีของผมใช้เครื่อง compaq presario เมื่อลงแล้ว ubuntu มองไม่เหน driver ของ wireless ทำให้ต่อเน็ตไม่ได้ เปิดอีกเครื่องดูเพื่อหาวิธีลง driver แต่ไม่ประสบความสำเร็จ บางวิธีลงไปก็ไม่กล้าไปต่อ เพราะลง ubuntu มาหลายรอบกลัวเดี้ยง เลยใช้วิธีง่ายๆ คือเสียบสายแลน แล้วให้ไปอัพเดพ driver ซึ่งมีอยู่สองอย่างที่ ubuntu ไม่รู้จัก คือ wireless กับ modem เลยจัดการให้อัพเดตซะ จริงๆ แล้ว modem คงไม่ได้ใช้เท่าไหร่ แต่ where where is where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ - มุขโบราณ) จัดการซะทีเดียวก็ดี
ได้แนวทางจาก http://xtremediary.blogspot.com/2010/04/to-do-after-installing-ubuntu-1004.html แล้วปรับนู่นปรับนี่ไปเรื่อยๆ แต่ถือเป็นต้นแบบที่ดีมากๆ ในการไล่ลงโปรแกรม แต่ขอเพิ่มเติมหน่อย คือว่า วิธีการลงโปรแกรมตามตัวอย่างนี้ ใช้การลงแบบ command line คือ พิมพ์เอาที่ Terminal ซึ่งเราสามารถเลือก option ต่างๆ ในการลงโปรแกรมหรือการดาวน์โหลดได้ ผ่านคำสั่ง apt-get แล้วผมไปเจอ apt-fast ซึ่งรายละเอียดจาก Lords IT Tech ควรทำตามขั้นตอนเพื่อใช้ apt-fast มาแทน apt-get เพื่อประหยัดเวลา (มาก)
หลังจากนนก็มาจัดการ เกี่ยวกับ web development หน่อย ได้วิธีจากคุณ kiterminal ตามลิงค์ นี้เลยครับ การติดตั้ง Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin บน Ubuntu 8.10 ใช้กับ ubuntu 10 หรือ version ที่อัพเดตกว่าได้ ตราบใดที่ยังใช้ apache 2 อยู่
ส่วนวิธีการลง ubuntu คงมีคนแสดงวิธีไว้มากแล้ว แต่อันหนึ่งที่ผมชอบมากเลยคือของคุณ ศุภชัย อารมณ์คงประมาณเดียวกันเลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)